ผลสำรวจซึ่งจัดทำโดยมหาวิทยาลัยควีนส์แลนด์ (UQ) ระบุว่า ชาวออสเตรเลียรู้สึกลังเลที่จะเดินทางไปยังต่างประเทศ แม้ว่ารัฐบาลเริ่มเปิดพรมแดนประเทศแล้วก็ตาม
ผลสำรวจของ UQ บ่งชี้ว่า มีประชาชนชาวออสเตรเลียเพียง 51% เท่านั้นที่วางแผนเดินทางไปต่างประเทศ ขณะที่ ประมาณหนึ่งในสามของผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่าพวกเขาต้องการเดินทางภายในประเทศมากกว่า ส่วน 16% ระบุว่าพวกเขาจะไม่เดินทางไม่ว่าจะเป็นในประเทศหรือต่างประเทศ
นางแกบบี้ วอลเทอร์ส รองศาสตราจารย์จากสถาบันธุรกิจ UQ ระบุว่า การตอบสนองแบบ “ไม่กระตือรือร้น” ดังกล่าวแตกต่างจากผลสำรวจที่จัดทำขึ้นในเดือนเม.ย.ปี 2564 ซึ่งมีขึ้นในเพียงไม่นานหลังออสเตรเลียสั่งห้ามการเดินทางระหว่างประเทศ
เธอให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซินหัวว่า “ดิฉันรู้สึกแปลกใจต่อผลสำรวจ แต่ก็เข้าใจเหตุผลของพวกเขาดี ในมุมหนึ่ง ประชาชนอาจตั้งตารอที่จะเดินทางอีกครั้ง ทว่ายังคงมีความไม่แน่ใจมากมายและการเปลี่ยนแปลงด้านนโยบายอย่างรวดเร็ว ดังนั้นจึงยังคงมีความไม่แน่นอนค่อนข้างสูง”
นอกจากนี้ นางวอลเทอร์สได้กล่าวว่า “ก่อนหน้านี้ ผู้คนรู้สึกไม่แน่ใจและกังวลเกี่ยวกับโควิดซึ่งเป็นเรื่องสมเหตุสมผลเพราะในเดือนเม.ย.ปีที่แล้ว ไม่มีใครรู้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น” โดยครั้งนี้ ประชาชนแสดงความรู้สึก “ยับยั้งชั่งใจและไม่พอใจ” รวมไปถึง “หวาดกลัวและวิตก” มากกว่าผลสำรวจครั้งก่อนเล็กน้อย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 พ.ย. 64)
Tags: ผลสำรวจ, ออสเตรเลีย, เปิดพรมแดน