ข้อมูลจากงานวิจัยของอังกฤษเมื่อวันพฤหัสบดี (24 มิ.ย.) ระบุว่า ประชาชนในอังกฤษอาจมีอาการป่วยระยะยาวจากโรคโควิด-19 หรือที่เรียกว่า “ภาวะโควิดระยะยาว” หรือ “ลองโควิด” (Long COVID-19) มากกว่า 2 ล้านราย
การศึกษาด้านการประเมินการแพร่ระบาดในชุมชนแบบเรียลไทม์หรือรีแอค-2 (REACT-2) ของราชวิทยาลัยลอนดอน เผยว่า พบผู้ป่วยโรคโควิด-19 กว่า 1 ใน 3 ที่มีอาการป่วย อาทิ อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ หายใจไม่อิ่ม แน่นหน้าอก หรือเจ็บหน้าอก เป็นเวลานานอย่างน้อย 12 สัปดาห์
ผลการศึกษานี้อ้างอิงข้อมูลจากประชากรวัยผู้ใหญ่ 508,707 ราย ที่เข้าร่วมการศึกษาตั้งแต่ช่วงเดือนก.ย. 2563 จนถึงเดือนก.พ. 2564
อย่างไรก็ตาม การศึกษานี้เก็บข้อมูลจากการที่ผู้เข้าร่วมรายงานอาการป่วยของตนเอง ดังนั้นอาจประเมินจำนวนผู้มีอาการลองโควิดสูงกว่าความเป็นจริง เนื่องจากอาการป่วยเหล่านี้พบได้บ่อยและไม่ได้มีสาเหตุมาจากเชื้อไวรัสโควิด-19 เพียงอย่างเดียว
ศาสตราจารย์พอล เอลเลียต ผู้อำนวยการโครงการรีแอค ระบุว่า ผลการศึกษาของเราทำให้เห็นภาพที่น่าเป็นกังวลเกี่ยวกับผลกระทบทางสุขภาพในระยะยาวของโรคโควิด-19 ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องคำนึงถึงระหว่างการออกนโยบายหรือวางแผนต่างๆ
“เรายังไม่เข้าใจลองโควิดได้ดีนัก แต่เราหวังว่างานวิจัยของเราจะช่วยให้เราสามารถระบุและจัดการกับอาการป่วยนี้ได้ดีขึ้น ข้อมูลของเราและข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องชี้ว่าอาการป่วยนี้อาจส่งผลกระทบต่อประชาชนในอังกฤษหลายล้านคน”
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ข้อมูลเมื่อวันพุธที่ 23 มิ.ย. ระบุว่า อังกฤษพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 เพิ่มอีก 16,135 ราย ในช่วง 24 ชั่วโมง ซึ่งแตะระดับสูงสุดเมื่อนับตั้งแต่ต้นเดือนก.พ. ส่งผลให้มียอดรวมของผู้ติดเชื้อแตะ 4,667,870 ราย
ทั้งนี้ นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอักฤษ ประกาศเลื่อนกำหนดการผ่อนปรนข้อจำกัดควบคุมโรคโควิด-19 ขั้นสุดท้ายของอังกฤษออกไปอีก 4 สัปดาห์เป็นวันที่ 19 ก.ค. ขณะยอดผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลต ซึ่งพบเป็นครั้งแรกในอินเดีย พุ่งสูงขึ้นในอังกฤษ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 มิ.ย. 64)
Tags: COVID-19, Long COVID-19, XINHUA, บอริส จอห์นสัน, พอล เอลเลียต, ลองโควิด, อังกฤษ, โควิด-19