นายยุทธ ชินสุภัคกุล ประธานกรรมการบริหาร บมจ.อีสเทอร์น พาวเวอร์ กรุ๊ป (EP) เปิดเผยว่า ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นเมื่อวันที่ 17 ธ.ค.ที่ผ่านมามีมติให้ บมจ.อีเทอร์นิตี้ พาวเวอร์ (ETP) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ EP ถือหุ้น 81.40% ของทุนที่ชำระแล้ว, บริษัท ตะวันออกการพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ จำกัด (EPPCO) ซึ่ง EP ถือหุ้น 100% และบริษัท อีพี กรุ๊ป (ฮ่องกง) จำกัด (EP HK) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยทางอ้อมที่ EP ถือหุ้น 100% โดย ETP ขายหุ้นทั้งหมดของบริษัท อีสเทอร์น โคเจนเนอเรชั่น จำกัด (E-COGEN) ที่ถือรวม 100% ให้แก่ บริษัท ยูนิเวนเจอร์ บีจีพี จำกัด (UVBGP) ในราคาหุ้นละ 491.46 บาท รวมเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 4,914.64 ล้านบาท และผู้ซื้อต้องชำระเงินกู้ให้แก่ ETP จำนวนโดยประมาณ 6,419.45 ล้านบาท รวมทั้งสิ้น 11,334.09 ล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการโอนหุ้นและรับชำระค่าหุ้นให้แล้วเสร็จภายในเดือน ธ.ค.64
E-COGEN เป็นบริษัทย่อยทางอ้อมที่ถือหุ้นโดย EP ในสัดส่วน 82.33% ซึ่งดำเนินธุรกิจเป็นบริษัท Holding ที่ลงทุนในบริษัท พีพีทีซี จำกัด (PPTC) ในสัดส่วน 74.50% ของทุนที่ชำระแล้ว และบริษัท เอสเอสยูที จำกัด (SSUT) ในสัดส่วน 100.00% ของทุนที่ชำระแล้ว
“การขายหุ้น PPTC และ SSUT ให้กับ UVBGP เพื่อเพิ่มโอกาสในการเติบโต รองรับแผนขยายการลงทุนในอนาคต ทั้งนี้บริษัทจะทำการ COD โรงไฟฟ้าพลังลมตั้งแต่ ม.ค.ถึงมี.ค.65 กำลังการผลิต 82.5 / 45.3 / 30 รวม 157.80 เมกะวัตต์ (MW) และมีแผนที่จะลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานก๊าซธรรมชาติในประเทศเวียดนาม ขนาดกำลังผลิต 1,500 เมกะวัตต์ ร่วมกับพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศ คาดว่าจะมีความชัดเจนในปี 65” นายยุทธ กล่าว
นอกจากนี้ ยังคาดว่าผลการดำเนินงานของ EP ในไตรมาส 4/64 จะขยายตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จากการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากการขายหุ้น 2 โรงไฟฟ้าโคเจนฯในครั้งนี้ ตามสัดส่วนการถือหุ้น
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 ธ.ค. 64)
Tags: COD, EP, ยุทธ ชินสุภัคกุล, หุ้นไทย, อีสเทอร์น พาวเวอร์ กรุ๊ป, อีเทอร์นิตี้ พาวเวอร์