นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวผ่านรายการโทรทัศน์ถึงความคืบหน้าคดีโครงการจัดซื้อรถตรวจการณ์อัจฉริยะ 260 คัน วงเงิน 900 ล้านบาทว่า ป.ป.ช.ได้แจ้งข้อกล่าวหา พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา เมื่อครั้งเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พร้อมพวก 46 ราย
สำหรับทั้ง 46 รายที่อยู่ในข่ายถูกไต่สวนคดีนี้ แบ่งออกเป็น กลุ่มผู้บริหารสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 5 ราย กลุ่มคณะกรรมการพิจารณาคุณลักษณะเฉพาะพัสดุ 7 ราย กลุ่มคณะกรรมการร่างขอบเขตของงานกำหนดราคากลางรวมทั้งกำหนดหลักเกณฑ์การพิจารณาคัดเลือกข้อเสนอ และคณะกรรมการจัดซื้อโดยวิธีการคัดเลือก 3 ราย และกลุ่มบริษัทเอกชน 31 ราย ซึ่งในจำนวนนั้นมีบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และกลุ่มบริษัทที่เตรียมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์รวมอยู่ด้วย
สำหรับโครงการจัดซื้อรถตรวจการณ์อัจฉริยะทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ได้ดำเนินการจัดซื้อจาก บริษัท จีเนียส ทราฟฟิค ซีสเต็ม จำกัด (GTS) เมื่อวันที่ 30 มี.ค.61 แบ่งเป็น 2 ประเภท โดยประเภทที่ 1 เป็นรถยนต์ไฟฟ้าพลังงานผสมแบบเสียบปลั๊ก มีเครื่องรับส่งวิทยุ ติดเครื่องขยายเสียง ไซเรน ไฟ LED ติดกล้องหลังรถ มีคอมพิวเตอร์เคลื่อนที่ เครื่องตรวจหนังสือเดินทาง กล้องวิดีโอติดหมวก รวมทั้งปืนไฟฟ้าด้วย ประเภทที่ 2 เพิ่มกล้อง Web Camera และเครื่องพิมพ์ Printer ชนิด Dot Matrix แบบแคร่สั้น ทั้งนี้ โครงการยังรวมไปถึงการเช่าระบบเครือข่ายวงจรสื่อสารด้วย
โดยคดีนี้สืบเนื่องจาก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ในสมัยเป็นที่ปรึกษาพิเศษ สำนักนายกรัฐมนตรี และ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงาน ทนายประชาชนฯ ออกมาเปิดเผยถึงความไม่ชอบมาพากลของโครงการนี้ ซึ่งเป็นโครงการต่อเนื่องจากโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจพิสูจน์บุคคลโดยเทคโนโลยี Biometrics ระยะที่ 1 โดยเห็นว่า อาจมีปัญหาเรื่องการจัดซื้อแพงเกินจริง และดำเนินการล่าช้า
ป.ป.ช.เคยมีมติเมื่อเดือน พ.ค.2565 ให้ตั้งองค์คณะไต่สวน พล.ต.อ. จักรทิพย์ และพวก เพื่อตรวจสอบวิธีการจัดซื้อจัดจ้างกรณีคัดเลือกได้ดำเนินการชอบด้วย พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 และระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้าง พ.ศ.2560 หรือไม่ เนื่องจากมีข้อสงสัยว่าการจัดซื้อโดยวิธีคัดเลือก มีการแข่งขันราคาอย่างไม่เป็นธรรม กำหนดราคากลางแพงเกินจริง ตลอดจนไม่คิดค่าปรับล่าช้า รวมทั้งมีการแก้ไขสัญญาเพิ่มเติมเอื้อประโยชน์ให้แก่บริษัทเอกชนคู่สัญญาหรือไม่
นอกจากนี้ ยังมีโครงการในสมัย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ที่ ป.ป.ช.อยู่ระหว่างสรุปข้อเท็จจริงอีก 2 โครงการ ได้แก่ โครงการจัดซื้อเรือตรวจการณ์ จำนวน 18 ลำ วงเงินกว่า 348 ล้านบาท ยังอยู่ในชั้นคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อนำเสนอว่าจะมีมูลเพียงพอให้สั่งไต่สวนหรือไม่ และโครงการไบโอเมตริกซ์ หรือการตรวจสอบอัตลักษณ์บุคคล ที่อยู่ระหว่างสรุปรายละเอียด และเสนอองค์คณะผู้ไต่สวนว่าข้อหามีมูลเพียงพอจะแจ้งข้อกล่าวหาหรือไม่
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 มี.ค. 66)
Tags: จักรทิพย์ ชัยจินดา, นิวัติไชย เกษมมงคล, ป.ป.ช.