นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์เฟซบุ๊ก ชี้ให้เห็นถึงความไม่มีมาตรฐานของระยะเวลาที่ใช้ในการพิจารณาคำร้องของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จนถึงขั้นตอนการส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ในคดีของรัฐมนตรีในสมัยรัฐบาล คสช. เทียบกับคดีของนายธนาธร และนายพิธา โดยมองว่าสถานการณ์ดังกล่าว เหมือน “หนังม้วนเก่ากำลังกลับมาฉายซ้ำ”
โดยระบุว่า เมื่อ 4 ปีที่แล้ว ได้แถลงข่าวชี้ให้เห็นว่า เกิดกรณีไม่มีมาตรฐานในเรื่องระยะเวลาในการพิจารณาของ กกต.
– กรณีลักษณะต้องห้ามของนายดอน ปรมัตถ์วินัย ที่ กกต.ใช้เวลาพิจารณาส่งศาลรัฐธรรมนูญ 386 วัน ศาลรัฐธรรมนูญใช้เวลาพิจารณารับคำร้อง 70 วัน และไม่สั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว
– กรณีลักษณะต้องห้ามของ 4 รัฐมนตรีสมัยรัฐบาล คสช. ที่ กกต.ใช้เวลาพิจารณาส่งศาลรัฐธรรมนูญ 355 วัน ศาลรัฐธรรมนูญใช้เวลาพิจารณารับคำร้อง 75 วัน และไม่สั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว
แต่กรณีของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ กกต. ใช้เวลาพิจารณาส่งศาลรัฐธรรมนูญ 51 วัน ศาลรัฐธรรมนูญใช้เวลาพิจารณารับคำร้อง 7 วัน และสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว
“กรณีของนายธนาธร กลายเป็นสถิติที่ กกต.พิจารณาเรื่องเกี่ยวกับลักษณะต้องห้าม และศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องได้รวดเร็วที่สุด ราวกับนั่งรถไฟความเร็วสูง”
นายปิยบุตร กล่าวว่า มาวันนี้ 4 ปีผ่านไป ประชาชนผู้ทรงอำนาจสูงสุดของประเทศ ใช้อำนาจของตนร่วมกันแสดงเจตจำนงสนับสนุนให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี คะแนนเสียงถล่มทลาย คะแนนเสียงมากกว่าเดิมอย่างมีนัยสำคัญ แต่นายพิธา ก็ยังถูก “นิติสงคราม” กระทำซ้ำ และทำลายสถิติการพิจารณาคำร้องของ กกต. อย่างรวดเร็ว
“หากพิจารณานับจากวันที่นายเรืองไกร ยื่นคำร้องต่อ กกต.ซ้ำอีกครั้งในวันที่ 20 มิถุนายน ก็เท่ากับว่า กกต.ใช้เวลาพิจารณา 32 วันเท่านั้น พวกเขา บรรดาผู้กำกับภาพยนตร์ ยังคงตั้งหน้าตั้งตาเอาหนังม้วนเดิมกลับมาเล่นใหม่ หนังม้วนนี้เล่นกันมาเกือบ 20 ปี แล้ว เราจะให้มันจบแบบเดิม อย่างนั้นหรือ”
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 ก.ค. 66)
Tags: กกต., คณะก้าวหน้า, ปิยบุตร แสงกนกกุล