ปากีสถานโวย อินเดียทำ “สงครามน้ำ” หลังระงับสนธิสัญญาแม่น้ำสินธุ

รัฐมนตรีปากีสถานออกมาประณามการตัดสินใจของอินเดียที่จะระงับสนธิสัญญาแบ่งปันน้ำในแม่น้ำสินธุ โดยเรียกการกระทำดังกล่าวว่าเป็น “สงครามน้ำ” ซึ่งความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้นหลังเกิดเหตุกราดยิงนักท่องเที่ยวในแคชเมียร์ ยิ่งตอกย้ำความตึงเครียดระหว่างสองชาติเพื่อนบ้านที่มีอาวุธนิวเคลียร์ในครอบครอง

เหตุการณ์สะเทือนขวัญเกิดขึ้นเมื่อวันอังคาร (22 เม.ย.) โดยกลุ่มติดอาวุธบุกกราดยิง คร่าชีวิตนักท่องเที่ยวไป 26 ราย ณ หุบเขาไบซารัน ในเขตปาฮัลกัม ดินแดนบนเทือกเขาหิมาลัยในรัฐจัมมูและแคชเมียร์ของอินเดีย นับเป็นการโจมตีพลเรือนที่ร้ายแรงที่สุดในรอบเกือบ 2 ทศวรรษของอินเดีย

วิกรม มิสรี ปลัดกระทรวงการต่างประเทศอินเดีย แถลงเมื่อวันพุธ (23 เม.ย.) ว่า คณะกรรมการความมั่นคงแห่งชาติได้รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับความเชื่อมโยงข้ามพรมแดนของเหตุโจมตีดังกล่าวแล้ว

ล่าสุดในวันนี้ (24 เม.ย.) ตำรวจในแคชเมียร์ฝั่งอินเดียได้เผยแพร่ประกาศระบุชื่อผู้ต้องสงสัยว่าเป็นกลุ่มติดอาวุธ 3 ราย ที่เชื่อว่า “มีส่วนเกี่ยวข้อง” กับการโจมตีดังกล่าว พร้อมประกาศให้รางวัลนำจับ โดยในประกาศนั้นระบุว่า ผู้ต้องสงสัย 2 ใน 3 รายเป็นชาวปากีสถาน

ภายหลังการรับทราบข้อมูลเบื้องต้น รัฐบาลอินเดียตัดสินใจระงับสนธิสัญญาแบ่งปันแม่น้ำสินธุที่มีอายุ 6 ทศวรรษ และจะปิดจุดผ่านแดนทางบกเพียงแห่งเดียวระหว่างสองประเทศเพื่อนบ้าน

“การที่อินเดียระงับสนธิสัญญาแม่น้ำสินธุอย่างบุ่มบ่าม ถือเป็นการก่อสงครามน้ำ เป็นการกระทำที่ขี้ขลาดและผิดกฎหมาย” อาวาอิส เลคารี รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานปากีสถาน โพสต์ข้อความผ่านแพลตฟอร์มเอ็กซ์ (X) เมื่อคืนวันพุธ

สนธิสัญญาแม่น้ำสินธุ ซึ่งลงนามเมื่อปี 2503 โดยมีธนาคารโลกเป็นคนกลาง ถือเป็นกลไกสำคัญในการจัดสรรน้ำจากแม่น้ำสินธุและแม่น้ำสาขาต่าง ๆ และเคยยืนหยัดผ่านมาได้แม้ในช่วงสงครามระหว่าง 2 ชาติถึง 2 ครั้ง และความขัดแย้งรุนแรงอีกหลายครั้งในอดีต

ก่อนหน้านี้ ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศเพื่อนบ้านมหาอำนาจนิวเคลียร์ในเอเชียใต้ก็อยู่ในระดับที่เปราะบางอยู่แล้ว โดยปากีสถานได้ขับทูตอินเดียออกนอกประเทศ และไม่ได้แต่งตั้งเอกอัครราชทูตของตนเองประจำกรุงนิวเดลี นับตั้งแต่อินเดียยกเลิกสถานะพิเศษของแคชเมียร์เมื่อปี 2562

อนึ่ง ทั้งอินเดียและปากีสถานต่างอ้างกรรมสิทธิ์เหนือดินแดนแคชเมียร์ทั้งหมด แต่ปัจจุบันควบคุมดูแลคนละส่วน

อินเดียมักกล่าวหาปากีสถานว่าสนับสนุนกลุ่มติดอาวุธในแคชเมียร์ ขณะที่ปากีสถานยืนยันว่าให้เพียงการสนับสนุนทางการทูตและศีลธรรมแก่ขบวนการเรียกร้องสิทธิในการกำหนดอนาคตตนเอง

ทั้งนี้ ความขัดแย้งในแคชเมียร์คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วหลายหมื่นคนนับตั้งแต่ปี 2532 แม้สถานการณ์จะเริ่มคลี่คลายและการท่องเที่ยวจะกลับมาคึกคักในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาก็ตาม

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 เม.ย. 68)

Tags: , , , ,