ประธานสมาคมยานยนต์เยอรมนีหวั่นสหรัฐขึ้นภาษีนำเข้าเร่งเงินเฟ้อ-ซ้ำเติมผู้บริโภค

ประธานสมาคมยานยนต์เยอรมนี (VDA) ออกมาเตือนว่า การที่สหรัฐฯ เก็บภาษีนำเข้าสินค้าเพิ่ม อาจทำให้เงินเฟ้อพุ่งแรง ส่งผลให้ค่าครองชีพแพงขึ้น และยิ่งซ้ำเติมความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก

ฮิลเดการ์ด มุลเลอร์ ประธาน VDA ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซินหัวในงานแถลงข่าวประจำปีของสมาคมฯ ว่า ยุโรปต้องรวมตัวกันให้เหนียวแน่นกว่านี้ เพื่อรับมือกับผลกระทบจากการขึ้นภาษีดังกล่าว

“การขึ้นภาษีแบบนี้ ย่อมทำให้ประเทศอื่นต้องออกมาตรการตอบโต้ ซึ่งจะยิ่งทำให้เศรษฐกิจแย่ลงและกระทบการจ้างงาน” มุลเลอร์กล่าว “แค่อุตสาหกรรมยานยนต์เยอรมันอย่างเดียว ก็จ้างคนในสหรัฐฯ กว่า 140,000 คนแล้ว ถ้าขึ้นภาษี สุดท้ายก็จะทำให้ราคาสินค้าแพงขึ้น ซึ่งจะยิ่งซ้ำเติมสถานการณ์เศรษฐกิจที่กำลังย่ำแย่อยู่แล้ว”

นอกจากนี้ การเก็บภาษีเพิ่มจะทำให้ซัพพลายเชนทั่วโลกปั่นป่วน ซึ่งจะยิ่งทำให้ปัญหาที่อุตสาหกรรมยานยนต์เผชิญอยู่หนักขึ้นไปอีก

ประธาน VDA กล่าวว่า “ตอนนี้อุตสาหกรรมยานยนต์กำลังถูกกดดันจากการเปลี่ยนผ่านไปสู่รถยนต์ไฟฟ้าอยู่แล้ว ถ้ามีกำแพงการค้าใหม่ ๆ มาอีก ก็จะกระทบหนักมากต่อระบบการผลิต ซัพพลายเชน และเครือข่ายการผลิตทั้งหมด” โดยผลกระทบไม่ได้จำกัดแค่สหรัฐฯ กับยุโรปเท่านั้น “ตอนนี้เม็กซิโกและแคนาดาก็กำลังพิจารณาขึ้นภาษีเหมือนกัน แถมความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างประเทศก็กำลังเพิ่มขึ้น การกีดกันทางการค้าที่กำลังระบาดไปทั่วนี้ จะทำให้ต้นทุนการผลิตทั่วโลกพุ่งขึ้นอย่างเดียว”

สุดท้ายแล้ว ภาระภาษีที่เพิ่มขึ้นก็จะตกไปอยู่ที่ผู้บริโภค ซึ่งจะยิ่งเร่งเงินเฟ้อ ขัดกับที่โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เคยหาเสียงว่าจะลดเงินเฟ้อ

มุลเลอร์เผยว่า บริษัทรถยนต์ของเยอรมนีได้ทุ่มการผลิตในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นมาก โดยในปี 2566 บริษัทเยอรมนีผลิตรถในสหรัฐฯ ราว 908,000 คัน ซึ่งครึ่งหนึ่งผลิตเพื่อส่งออก

“ตัวเลขนี้ชี้ให้เห็นว่า ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างเยอรมนีกับสหรัฐฯ เน้นความร่วมมือมากกว่าการแข่งขัน” มุลเลอร์กล่าว “แทนที่จะมากั้นตลาดด้วยภาษีหรือกำแพงการค้า เราควรมองที่ผลประโยชน์ร่วมกันมากกว่า”

สำหรับจีนนั้น มุลเลอร์มองว่าเป็นทั้งพันธมิตรสำคัญและคู่แข่งของอุตสาหกรรมยานยนต์เยอรมนี

“เรายินดีที่เยอรมนีได้ผลิตรถในจีน และเราก็มองในทางบวกที่บริษัทจีนมาตั้งโรงงานในเยอรมนีหรือยุโรป” มุลเลอร์กล่าว “การร่วมมือแบบสองทางนี้ช่วยสร้างงาน ส่งเสริมการแลกเปลี่ยน และพัฒนาภูมิภาค”

มุลเลอร์ย้ำว่า การเปิดกว้างและร่วมมือกันเป็นสิ่งจำเป็นที่จะช่วยให้อุตสาหกรรมก้าวข้ามความท้าทายและเติบโตไปด้วยกันได้ โดยทิ้งท้ายว่า “ความร่วมมือเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้อุตสาหกรรมยานยนต์โลกฝ่าฟันอุปสรรคและก้าวหน้าต่อไปได้”

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 ม.ค. 68)

Tags: , ,