ประชาชนในกรุงปักกิ่งซึ่งเป็นเมืองหลวงของจีน หันมาใช้จักรยานกันมากขึ้น หลังจากเทศบาลกรุงปักกิ่งสั่งปิดสถานีบริการรถไฟใต้ดินกว่า 40 สถานี และปิดเส้นทางเดินรถประจำทาง 158 เส้นทาง เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ภาพบรรยากาศการปั่นจักรยานในถนนฝั่งตะวันออกของกรุงปักกิ่งชวนให้นึกถึงภาพเก่า ๆ ในสมัย 30-40 ปีก่อน ซึ่งเป็นยุคที่ยังไม่มีการใช้รถยนต์และรถมอเตอร์ไซค์อย่างแพร่หลาย ภาพวันวานของ “กองทัพจักรยาน (bicycle kingdom)” เกิดขึ้นเนื่องจากสถานีรถไฟใต้ดินปิดให้บริการ ขณะที่รถโดยสารประจำทางจอดได้เป็นบางป้ายเพื่อสกัดการระบาดของไวรัสโอมิครอน
หลังจากที่เทศบาลกรุงปักกิ่งประกาศปิดสถานีรถไฟใต้ดินเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (4 พ.ค.) ประชาชนต่างก็เริ่มโพสต์ภาพขาวดำเหมือนกับในสมัยที่ผู้คนจำนวนมากพากันขี่จักรยานเต็มท้องถนน โดยมีการแซวมุกตลกว่า นี่จะเป็นภาพบรรยากาศของกรุงปักกิ่งหลังผ่านช่วงวันแรงงาน
ข้อมูลจากบริษัทผู้ให้บริการรถจักรยานระบุว่า ปริมาณการสัญจรด้วยรถจักรยานหนาแน่นในช่วงเวลาเร่งด่วนเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (6 พ.ค.) ซึ่งเป็นวันแรกที่ประชาชนกลับไปทำงานหลังวันหยุดยาว ขณะที่รัฐบาลเร่งดำเนินตามมาตรการป้องกันโควิด-19 ในช่วงวันหยุด พร้อมทั้งสนับสนุนให้ประชาชนทำงานจากที่บ้าน
ทั้งนี้ บริการรถจักรยานในจีนนั้นปกติจะมีนักท่องเที่ยวหรือคนในท้องถิ่นมาใช้บริการสำหรับเส้นทางระยะสั้น โดยมีบริษัทผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต อาทิ ตีตี โกลบอล อิงค์ (Didi Global Inc) และเหม่ยถวน (Meituan) เป็นผู้ดูแลระบบ
กรุงปักกิ่งพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้ต้องเร่งตรวจหาเชื้อให้กับประชาชน โดยคาดหวังว่าหากพบการติดเชื้อก็จะสามารถกักตัวผู้ป่วยก่อนที่จะมีการลุกลามเป็นวงกว้าง นอกจากนี้ การใช้มาตรการที่เข้มงวดของกรุงปักกิ่งยังมีเป้าหมายที่จะหลีกเลี่ยงไม่ให้มีการล็อกดาวน์เหมือนกับในเมืองเซี่ยงไฮ้ โดยขณะนี้เซี่ยงไฮ้ซึ่งมีประชากรจำนวนมากถึง 25 ล้านคนยังคงอยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์เป็นเวลานานกว่า 1 เดือนแล้ว และยังไม่มีแนวโน้มว่าจะยกเลิกมาตรการดังกล่าวในระยะใกล้นี้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 พ.ค. 65)