นายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์กคาดการณ์ว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน อาจจะทำให้ปัญหาด้านห่วงโซ่อุปทานยืดเยื้อออกไปซึ่งได้ส่งผลให้เงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้นอยู่แล้ว โดยเฟดจำเป็นต้องนำปัจจัยดังกล่าวมาพิจารณาในการกำหนดนโยบายการเงินต่อไป
ปธ.เฟดนิวยอร์กให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์เดอะนิวยอร์กไทมส์ว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน “ทำให้แนวโน้มมีความไม่แน่นอนเพิ่มขึ้นมาก” และอาจทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวช้าลง หากวิกฤตดังกล่าวยังคงทำให้มีความต้องการสินค้าและบริการที่กำลังเผชิญกับภาวะขาดแคลนอยู่ในปัจจุบัน และอาจทำให้แรงกดดันด้านเงินเฟ้อสูงขึ้นด้วย
อย่างไรก็ดี ปธ.เฟดนิวยอร์กไม่ได้ส่งสัญญาณว่า เขาสนับสนุนให้เฟดเร่งลดการซื้อสินทรัพย์หรือไม่ โดยเปิดเผยเพียงแค่ว่า เฟดจะมีปัจจัยจำนวนมากให้พิจารณาในการประชุมนโยบายครั้งต่อไป ไม่ว่าจะเป็นเงินเฟ้อ การจ้างงาน และผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน
ขณะนี้เชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนได้แพร่ระบาดไปใน 23 ประเทศทั่วโลก และองค์การอนามัยโลก (WHO) คาดการณ์ว่าจำนวนดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นอีก
นายแพทย์ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่ของ WHO กล่าวว่า ผู้เชี่ยวชาญกำลังทำการศึกษาเกี่ยวกับความสามารถในการแพร่กระจายของไวรัสสายพันธุ์โอไมครอน รวมทั้งอาการรุนแรงของโรคที่อาจเกิดขึ้น นอกจากนี้ บริษัทต่าง ๆ ก็กำลังทดลองวัคซีนและยาที่จะรับมือกับไวรัสสายพันธุ์ใหม่ดังกล่าว
อย่างไรก็ดี นายแพทย์ทีโดรสระบุว่า ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตายังคงครองสัดส่วนมากที่สุดในจำนวนผู้ติดเชื้อทั่วโลก และการใช้มาตรการในการสกัดไวรัสสายพันธุ์เดลตาก็จะช่วยสกัดสายพันธุ์โอไมครอนได้เช่นกัน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (02 ธ.ค. 64)
Tags: จอห์น วิลเลียมส์, ซัพพลายเชน, ธนาคารกลางสหรัฐ, เฟด