เผิง เซิน ประธานสมาคมปฏิรูปเศรษฐกิจจีน และอดีตรองประธานคณะกรรมการปฏิรูปและการพัฒนาแห่งชาติ (NDRC) ได้เสนอแนะว่า จีนควรตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มการบริโภคให้อยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับประเทศพัฒนาแล้วภายในทศวรรษหน้า ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของการผลักดันการเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจของจีน ซึ่งโดยปกติจะเน้นการลงทุนและการส่งออกเป็นหลัก
เผิงกล่าวในที่ประชุมเอเชียโป๋อ๋าว (Boao Forum for Asia – BFA) เมื่อวันอังคาร (25 มี.ค.) ว่า หน่วยงานต่าง ๆ ควรพยายามกระตุ้นการบริโภคเป็นสัดส่วนของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) จากประมาณ 55% ในปัจจุบันให้เป็น 70% ภายในปี 2578
ความคิดเห็นของเผิงยิ่งตอกย้ำว่า จีนต้องเร่งผลักดันให้มีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการเติบโต โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์คุกคามการส่งออกและผลตอบแทนจากการลงทุนที่ลดลง
ด้านรัฐบาลจีนได้ให้ความสำคัญกับการกระตุ้นอุปสงค์ในประเทศ โดยเฉพาะการใช้จ่ายของผู้บริโภคเป็นอันดับแรกในปีนี้ แม้ว่าจะยังไม่ได้กำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนก็ตาม
เผิงกล่าวว่า เศรษฐกิจของจีนเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วง 40 ปีที่ผ่านมา โดยเน้นที่โรงงานและการผลิต แต่ในขณะเดียวกันก็ทำให้การบริโภคอยู่ในระดับต่ำด้วย หากต้องการเติบโตอย่างต่อเนื่อง การบริโภคควรเพิ่มขึ้น 5-8% ของ GDP ในอีก 5 ปีข้างหน้า โดยขั้นตอนแรกในกระบวนการนี้ คือการเพิ่มรายได้และกระจายความมั่งคั่งให้กับผู้บริโภคมากขึ้น
เผิงยังได้ย้ำด้วยว่า การกำหนดเป้าหมายดังกล่าวควรเป็นส่วนหนึ่งของแผนเศรษฐกิจสำหรับ 5 ปีถัดไปของจีน ซึ่งจะครอบคลุมช่วงปี 2569-2573
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 มี.ค. 68)
Tags: GDP, เศรษฐกิจจีน