ประธานาธิบดีไล่ ชิงเต๋อ ของไต้หวันกล่าวกับเจ้าหน้าที่กองทัพอากาศในการแสดงความคิดเห็นที่เผยแพร่ออกมาในวันนี้ (9 ก.ค.) ว่า มีหลายครั้งในประวัติศาสตร์ที่กองทัพขนาดเล็กกว่าสามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ที่มีจำนวนมากกว่าได้
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า คำกล่าวของปธน.ไล่มีขึ้นเพื่อสร้างขวัญกำลังใจก่อนการซ้อมรบใหญ่ประจำปีที่จะจัดขึ้นภายหลังในเดือนนี้
จีน ซึ่งมองว่าไต้หวันเป็นดินแดนของตัวเอง ได้ประกาศการซ้อมรบรอบเกาะไต้หวันอย่างต่อเนื่องมา 4 ปีแล้ว เพื่อกดดันไต้หวันให้ยอมรับอำนาจอธิปไตยของจีน แม้ว่าไต้หวันจะปฏิเสธอย่างแข็งขันก็ตาม
แม้ว่ากองทัพของไต้หวันมีขนาดเล็กกว่ากองทัพของจีนอยู่มาก แต่ไต้หวันได้ปรับปรุงกองทัพให้ทันสมัย ไม่เพียงแค่อุปกรณ์ใหม่อย่างเรือดำน้ำเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการชูแนวคิด “สงครามอสมมาตร” (asymmetric warfare) ด้วยการทำให้กองทัพมีความคล่องตัวมากขึ้นและถูกโจมตีได้ยากขึ้นด้วยยุทโธปกรณ์ต่าง ๆ เช่น ขีปนาวุธติดยานพาหนะและโดรน
ปธน.ไล่ในชุดลายพราง อยู่เบื้องหน้าเครื่องบินขับไล่จิงกั๋วที่ผลิตในไต้หวัน ณ ฐานทัพอากาศในไต้หวันกลาง กล่าวว่า ความแข็งแกร่งของกองทัพไม่ใช่แค่เรื่องของคณิตศาสตร์พื้นฐานอย่างการบวก-ลบ
ปธน.ไล่กล่าวในวิดีโอฟุตเทจที่เผยแพร่โดยหน่วยงานของเขาว่า “จริงอยู่ที่จำนวนยุทโธปกรณ์นั้นเป็นเรื่องสำคัญ แต่นั่นไม่ได้แสดงถึงแสนยานุภาพของกองทัพของประเทศนั้น ๆ … ในประวัติศาสตร์ มีตัวอย่างมากมายที่แสดงให้เห็นว่า ทัพเล็กเอาชนะทัพใหญ่ได้ และมีหนทางอีกนับไม่ถ้วนในการเอาชนะข้าศึกหัวเก่าด้วยวิธีคิดแบบใหม่”
เจ้าหน้าที่อาวุโสคนหนึ่งของไต้หวันกล่าวเมื่อเดือนที่แล้วว่า การซ้อมรบใหญ่ฮั่นกวางประจำปีนี้จะใกล้เคียงกับการต่อสู้จริงมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และจะไม่ใช่แค่การโชว์ทำคะแนนอีกต่อไป แต่มุ่งเป้าไปที่การจำลองการต่อสู้จริงกับ “ภัยคุกคามจากศัตรู” ที่กำลังก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็วจากจีน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 ก.ค. 67)