พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ยืนยันว่า แม้ต้องเจอปัญหาอุปสรรคหลายเรื่องก็จะไม่ท้อ เพราะเป็นสิ่งที่ผู้นำต้องแก้ไข ไม่เช่นนั้นจะเป็นผู้นำไปทำไม ส่วนจะแก้ได้มากน้อยเพียงใดนั้น ต้องอาศัยความร่วมมือซึ่งกันและกัน และบางเรื่องที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ก็ไม่ได้มาจากข้อมูลข้อเท็จจริง
“เรื่องการเมืองขอให้เบาๆ กันหน่อย เพราะยังมีปัญหาหลายอย่างที่ยังต้องเผชิญในช่วงนี้ และขอให้ดูความยาก-ง่ายในการแก้ปัญหา ทั้งเรื่องปัญหาโควิด ปัญหาความขัดแย้ง ปัญหาเศรษฐกิจ สงครามการค้า สิ่งสำคัญคือต้องสร้างความเข้มแข็งร่วมกัน ทั้งจากประชาชน รวมถึงภาคเอกชน และรัฐบาล” นายกรัฐมนตรี ระบุ
ส่วนการที่แต่ละพรรคการเมืองเปิดตัวผู้นำที่จะเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีนั้น ผู้สื่อข่าวถามว่า แต่ละรายชื่อนายกรัฐมนตรีสู้ได้หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ต้องไปถามประชาชนที่เป็นคนเลือก
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงการตั้งศูนย์บูรณาการแก้ไขสถานการณ์โควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศบค.ส่วนหน้า) ว่า ได้กำชับไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) และกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ถึงการบริหารจัดการภาคใต้ เพื่อลดการสูญเสีย รวมถึงการเยียวยา โดยได้เน้นย้ำให้เฝ้าระวังเรื่องความปลอดภัย เพราะประเทศไทยมีปัญหาหลายด้าน ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา ตั้งแต่ตนเป็นผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เพราะเป็นกลไกของทุกรัฐบาล ซึ่งหน่วยงานเหล่านี้ที่เข้าไปเพื่อเสริมการปฏิบัติงานของกระทรวงอื่นด้วย เช่น ทหารที่ทำหน้าที่ป้องกันการลักลอบตามแนวชายแดน เพื่อป้องกันการระบาดโควิด-19 ด้วยการประสานกับประเทศเพื่อนบ้าน จึงฝากความเห็นใจ และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทหารตามแนวชายแดน
ทั้งนี้ ในส่วน ศบค.ส่วนหน้า ประชาชนในพื้นที่ก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี โดยยืนยันว่า ไม่ใช่เป็นการยึดอำนาจแต่เป็นการบูรณาการการในเรื่องการฉีดวัคซีนให้ครอบคลุม และการสร้างความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ รวมถึงการสกัดกั้นการแพร่ระบาด
สำหรับการเปิดประเทศในวันที่ 1 พ.ย.นี้ นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า มีอีกหลายประเทศที่จะประกาศให้สามารถเดินทางเข้ามาไทยได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะสามารถเข้ามาได้ทุกประเทศ ซึ่งต้องมีการหารือร่วมกันระหว่างประเทศต้นทางและประเทศปลายทาง ว่ามาตรการที่ทางไทยกำหนดสามารถปฏิบัติตามได้หรือไม่ ซึ่งในระยะแรกอาจจะมีเข้ามาไม่กี่ประเทศ ทั้งนี้ ในหลายประเทศก็มีการเปิดประเทศเช่นเดียวกัน และเราจำเป็นต้องอยู่ร่วมกับโควิดให้ได้ เพื่อให้เศรษฐกิจดีขึ้น
“เราต้องปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด ถ้าเปิดแล้วมีปัญหา ก็ต้องปิดอีก เราก็ไม่อยากปิดทั้งหมด รู้ว่าทุกคนเดือดร้อน เราเยียวยาไป เพื่อประทังให้ดำรงชีพอยู่ได้ รวมถึงแรงงานเยอะแยะไปหมด รัฐบาลก็ต้องใช้ทั้งเงินกู้ เงินงบประมาณ ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่เผชิญอยู่ในขณะนี้” นายกรัฐมนตรีกล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการบริหารจัดการน้ำว่า หากพายุเข้ามาน้อยก็ไม่ส่งผลกระทบต่อประเทศไทย แต่สิ่งสำคัญคือ เส้นทางระบายน้ำธรรมชาติต่างๆ และรัฐบาลได้จัดให้ทางกรมป้องกันบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จัดซื้อเครื่องสูบน้ำระยะไกลถึง 10 กิโลเมตร เพื่อจูงน้ำไปยังพื้นที่ที่สามารถเก็บน้ำได้ และต้องเร่งเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบด้วย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 ต.ค. 64)
Tags: การเมือง, นายกรัฐมนตรี, ประยุทธ์ จันทร์โอชา