ราคาคริปโทเคอร์เรนซีร่วงลงอย่างต่อเนื่องในช่วงเช้าวันนี้ (11 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าแรงเทขายที่เกิดขึ้นในตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะบดบังความพยายามของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในการสนับสนุนอุตสาหกรรมคริปโทฯ
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ราคาบิตคอยน์ร่วงลงกว่า 3% แตะที่ระดับ 79,477 ดอลลาร์ ณ เวลา 10.22 น.ตามเวลาสิงคโปร์ในวันนี้ ขณะที่ราคาอีเธอร์ (Ether) ซึ่งเป็นเหรียญคริปโทฯ ที่มีมูลค่าสูงเป็นอันดับสองรองจากบิตคอยน์ ดิ่งลง 6% แตะที่ระดับ 1,756 ดอลลาร์
เฮย์เดน ฮิวจ์ส หัวหน้าฝ่ายการลงทุนคริปโทฯ จากบริษัทเอเวอร์กรีน โกรท (Evergreen Growth) คาดการณ์ว่า แนวรับของบิตคอยน์จะอยู่ในช่วง 73,000 – 70,000 ดอลลาร์
ราคาบิตคอยน์ร่วงลงหลังจากเกิดกระแสการเทขายในตลาดหุ้นสหรัฐฯ นำโดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี โดยดัชนี Nasdaq 100 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นบริษัทในกลุ่มเทคโนโลยี ร่วงลง 4% ในวันจันทร์ (10 มี.ค.) ซึ่งเป็นการปรับตัวลงในวันเดียวที่รุนแรงที่สุดนับตั้งเดือนก.ย. 2565
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินเยนและการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรญี่ปุ่น หลังจากนักลงทุนได้ลดการทำ Carry Trade ในสกุลเงินเยน ท่ามกลางความหวังที่ว่าธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในไม่ช้านี้
ทั้งนี้ ธุรกรรม Carry Trade คือการที่นักลงทุนกู้ยืมสกุลเงินเยนซึ่งมีต้นทุนต่ำ เพื่อนำไปซื้อสกุลเงินหรือสินทรัพย์ที่ให้อัตราผลตอบแทนสูงกว่า ซึ่งการลดการทำ Carry Trade ได้ส่งผลให้เกิดแรงเทขายในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ซึ่งรวมถึงหุ้น 7 บริษัทเทคโนโลยีที่มีมาร์เก็ตแคปสูง หรือกลุ่ม “Magnificent Seven”
โจชัว ลิม หัวหน้าฝ่ายตลาดของบริษัทฟอลคอนเอ็กซ์ โกลบอล (FalconX Global) กล่าวว่า “ความเกี่ยวพันระหว่างบิตคอยน์และตลาดหุ้นกำลังเพิ่มขึ้นสู่ระดับที่ไม่เคยเห็นนับตั้งแต่นักลงทุนเริ่มลดการทำธุรกรรม Carry Trade เงินเยนในเดือนส.ค. 2567”
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 มี.ค. 68)
Tags: bitcoin, Cryptocurrency, คริปโทเคอร์เรนซี, ตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นสหรัฐ, บิตคอยน์