น.ส.ดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนว่า บอร์ดบีโอไอได้อนุมัติให้การส่งเสริมการลงทุน รวมมูลค่า 14,442.4 ล้านบาท ในกิจการ DATA CENTER จาก 2 บริษัท คือ บริษัท ทรู อินเตอร์เน็ต ดาต้า เซ็นเตอร์ จำกัด และบริษัท เทเลเฮ้าส์ (ประเทศไทย) จำกัด รวมทั้งมีโครงการผลิตผลิตภัณฑ์น้ำยางสังเคราะห์ (SYNTHETIC LATEX) และโครงการผลิต COPPER FOIL
สำหรับสถิติคำขอรับการส่งเสริมการลงทุนไตรมาสแรกของปี 65 มีจำนวนโครงการรวม 378 โครงการ เพิ่มขึ้น 1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มีมูลค่ารวม 110,733 ล้านบาท ลดลง 6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ขณะที่การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) มีโครงการยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนมูลค่ารวม 77,290 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อน โดยแหล่งที่มาของเงินทุนที่มีมูลค่าการลงทุนมากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ไต้หวัน มูลค่าลงทุน 37,076 ล้านบาท ญี่ปุ่น มูลค่าลงทุน 13,788 ล้านบาท และจีน มูลค่าลงทุน 13,361 ล้านบาท ตามลำดับ
สำหรับคำขอรับการส่งเสริมการลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย มีมูลค่าลงทุนรวมทั้งสิ้น 78,217 ล้านบาท โดยอุตสาหกรรมเป้าหมายที่มีการยื่นขอรับการส่งเสริมสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ อุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน อุตสาหกรรมการเกษตรและแปรรูปอาหาร และอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า และอิเล็กทรอนิกส์ ตามลำดับ
การลงทุนในพื้นที่เป้าหมายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) มีการขอรับการส่งเสริมรวมมูลค่า 60,362 ล้านบาท โดยจังหวัดระยอง มีมูลค่าเงินลงทุนสูงสุด 46,405 ล้านบาท รองลงมาเป็นจังหวัดชลบุรี มูลค่าเงินลงทุน 12,044 ล้านบาท และจังหวัดฉะเชิงเทรา มูลค่าเงินลงทุนรวม 1,913 ล้านบาท
นอกจากนี้ในเดือนกุมภาพันธ์ – มีนาคม 65 คณะอนุกรรมการพิจารณาโครงการได้อนุมัติให้การส่งเสริมการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ในอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง เช่น SUSPENSION FOR HARD DISK DRIVE, MULTILAYER PRINTED CIRCUIT BOARD, MULTILAYER CERAMIC CHIP CAPACITOR (MLCC) อุปกรณ์สื่อสารใยแก้วนำแสง และเส้นใยเทคนิค
นอกจากนี้ บีโอไอได้นำเสนอความคืบหน้าข้อเสนอการจัดเก็บภาษีในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล ขององค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ (OECD) ที่เกี่ยวข้องกับสิทธิ์ประโยชน์บีโอไอมีอะไรบ้าง และนำเสนอรูปแบบแนวทางการกำหนดอัตราภาษีขั้นต่ำ 15% ว่าดำเนินการอย่างไร แต่เรื่องนี้ยังอยู่ระหว่างการศึกษารายละเอียด และดูว่าจำเป็นต้องออกมาตรการเพิ่มเติมหรือไม่
น.ส.ดวงใจ ยังกล่าวถึงสถานการณ์ระหว่างรัสเซียกับยูเครนว่า ยังไม่ส่งผลต่อการลงทุนที่ชัดเจน แต่มีผลต่อราคาวัตถุดิบที่ปรับตัวสูงขึ้น เช่น ปุ๋ย ข้าว สาลี ซึ่งเป็นกลุ่มสินค้าต้นน้ำของอาหารสัตว์
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 เม.ย. 65)
Tags: BOI, ดวงใจ อัศวจินตจิตร์, ส่งเสริมการลงทุน