นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ว่า ที่ประชุมฯ มีมติเห็นชอบวงเงินงบประมาณ 2,300 ล้านบาท ในการดำเนินงานภายใต้โครงการสนับสนุน SMEs ผ่านกองทุนส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ที่สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เคยขอจัดสรรเพิ่มเติมวงเงิน 5,000 ล้านบาท
โดยงบประมาณดังกล่าว เพื่อให้ SMEs กู้ยืมสำหรับดำเนินการก่อตั้ง ปรับปรุง และพัฒนากิจการให้มีประสิทธิภาพ และขีดความสามารถเพิ่มขึ้น รวมทั้งเพื่อเป็นเงินช่วยเหลืออุดหนุน หรือลงทุนใดที่เกี่ยวกับการขยายกิจการ การวิจัย พัฒนา และการส่งเสริม SMEs ให้มีประสิทธิภาพ
อย่างไรก็ตาม เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์การแข่งขันในปัจจุบัน สสว. จึงได้ทบทวนและปรับเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินงาน โดยได้ขออนุมัติวงเงินงบประมาณเบื้องต้นจำนวน 2,300 ล้านบาท เพื่อจัดทำโครงการสนับสนุน SMEs ผ่านกองทุนส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ซึ่งแนวการดำเนินงาน ได้แก่ 1.การสนับสนุนเงินกู้ให้แก่ผู้ประกอบการวงเงินงบประมาณ 2,000 ล้านบาท สำหรับดำเนินการก่อตั้ง ปรับปรุง และพัฒนากิจการของ SMEs ผ่านสถาบันการเงินของรัฐ ได้แก่ ธนาคารออมสิน ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย และ 2.สนับสนุนงบประมาณโครงการส่งเสริมผู้ประกอบการผ่านระบบ BDS (Business Development Service) ปีงบประมาณ 2569-2570 เพิ่มเติมวงเงินงบประมาณ 300 ล้านบาท
สำหรับโครงการส่งเสริมผู้ประกอบการผ่านระบบ BDS นั้น สสว.จะอุดหนุนค่าใช้จ่ายแบบร่วมจ่าย (Co-payment) เป็นสัดส่วนตามขนาดของธุรกิจตามนิยาม SMEs ของ สสว. คือ นิติบุคคล/บุคคลที่จดทะเบียน ภาครัฐ/วิสาหกิจชุมชน โดยธุรกิจขนาดไมโครวงเงินสนับสนุนไม่เกิน 50,000 บาท หรือ สสว. สนับสนุน 80% MSME จ่าย 20% ส่วน SMEs ขนาดเล็ก หรือ SMALL วงเงินสนับสนุนไม่เกิน 1 แสนบาท โดย สสว. สนับสนุน 80% เช่นกัน ส่วนนิติบุคคลขนาดกลาง สสว.สนับสนุน 50% วงเงินสนับสนุนไม่เกิน 200,000 บาท ทั้งนี้ SMEs แต่ละรายจะได้รับการอุดหนุนทั้งหมดไม่เกิน 500,000 บาท/ราย
“โครงการทั้งหมด ถือเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับผู้ประกอบการ SMEs” นายประเสริฐ กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 ธ.ค. 67)