บลจ.วรรณ หั่นเป้า SET ปีนี้เหลือ 1,570 จุด หวังรัฐบาลใหม่เร่งคลอดแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ

นายพจน์ หะริณสุต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.วรรณ มองตลาดหุ้นไทย (SET) เป้าหมายปีนี้อยู่ที่ 1,570 จุด (จากต้นปี 66 คาด SET ปีนี้อยู่ที่ 1,740 จุด) โดยมีปัจจัยบวกจากความชัดเจนในการจัดตั้งรัฐบาลที่น่าจะแล้วเสร็จได้ก่อนไตรมาสสุดท้ายของปี และรัฐบาลใหม่มีการออกแผนกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นได้ภายใน 2-3 เดือนจากนี้ ขณะเดียวกันอัตราเงินเฟ้อที่น่าจะชะลอตัวลง รวมทั้งจำนวนนักท่องเที่ยวที่จะทยอยเข้ามาต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตามหากมีการชุมนุมประท้วงที่รุนแรง หรือเหตุการณ์ระดับโลกที่แย่ลง รวมทั้งประเด็นความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ ซึ่งจะกดดันบรรยากาศการลงทุน คาดว่าดัชนี SET มีแนวโน้มปรับลง ให้แนวรับ 1,485 จุด

ด้านนายมณฑล จุนชยะ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บลจ.วรรณ เปิดเผยถึงเศรษฐกิจไทยว่า มีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปี หนุนโดยการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนที่มีแนวโน้มฟื้นตัวในช่วงครึ่งหลังของปี บวกกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐที่ทยอยออกมา คาดช่วยหนุนทั้งการท่องเที่ยวในประเทศ และการใช้จ่ายของภาคครัวเรือนในระยะสั้น ขณะที่เงินเฟ้อทั่วไป ชะลอตัวต่อเนื่อง ช่วยลดแรงกดดันด้านการใช้นโยบายการเงินที่แข็งกร้าว ของคณะกรรมาการนโยบายการเงิน(กนง.)

“ภาพรวมเศรษฐกิจไทยปีนี้ยังคงมีอัตราการขยายตัวเกือบ 3% จากการท่องเที่ยวและภาคบริการที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวที่ยังขยายตัว โดยปัจจัยบวกที่เห็นชัดคือการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวชาวจีนและหวังว่าจะเป็นแรงส่งที่ทำให้นักท่องเที่ยวในปีนี้เพิ่งสูงขึ้นมาได้ถึง 70% ของก่อนช่วง covid19 หรือประมาณ 29 ล้านคน ขณะที่ตัวเลขการส่งออกที่ขยายตัวในอัตราที่ลดลงนั้นได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ทั้งนี้มองว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านงบประมาณน่าจะมาล่าช้ากว่ากำหนดอันเป็นผลมาจากการจัดตั้งรัฐบาลที่ล่าช้า” นายมณฑล กล่าว

*ส่งกองทุนทางเลือก ONE-LS5-UI ลดความเสี่ยงจากศก.ถดถอย

นายพจน์ กล่าวว่า ส่วนการลงทุนในตลาดสินทรัพย์หลัก บริษัทยังมีมุมมองเชิงบวกต่อการลงทุนในตลาดหุ้น โดยแนะนำทยอยสะสมเมื่อราคาย่อตัว โดยมองว่า อัตราเงินเฟ้อที่ชะลอตัวลงช่วยจำกัดความเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยรุนแรง (Hard-Landing) อีกทั้งตลาดรับรู้ปัจจัยเศรษฐกิจมหภาคที่ผันผวนไปพอสมควร ซึ่งแนะนำให้เลือกลงทุน “หุ้นกลุ่มเติบโต (Global Growth)” ที่มีขนาดใหญ่ มีฐานะทางการเงินแข็งแรง กำไรบริษัทฟื้นตัวได้ดี โดยเฉพาะบริษัทที่ได้ประโยชน์จาก Generative AI ที่มีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง

รวมทั้งตลาดหุ้นในฝั่งเอเชีย ได้แก่ จีน และเอเชียแปซิฟิก ที่ลงทุนในธุรกิจที่มีความยั่งยืนและพลังงานสะอาด (Asia Pacific ESG) ที่จะได้ประโยชน์จากอัตราเงินเฟ้อในภูมิภาคที่ชะลอตัว ซึ่งจะช่วยลดแรงกดดันด้านดอกเบี้ยนโยบาย และเชื่อว่าจะเป็นภูมิภาคสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตของเศรษฐกิจโลกในปีนี้และปีหน้า

ทั้งนี้ ภาพรวมของตลาดสินทรัพย์หลัก อาทิ ตราสารทุน ตราสารหนี้ รวมถึงสินค้าโภคภัณฑ์ยังคงเผชิญกับความไม่แน่นอนสูง การกระจายความเสี่ยงถือเป็นหัวใจสำคัญในการลงทุนในมุมมองของบลจ.วรรณ และ อีกทางเลือกที่บลจ.วรรณ แนะนำให้ลูกค้ามาโดยตลอด คือ การจัดสรรเงินบางส่วนเพื่อลงทุนในกองทุนทางเลือก กองทุนเปิด วรรณ ไลฟ์ เซทเทิลเมนท์ โดยปัจจุบันบลจ.วรรณขอเสนอ กองทุนเปิด วรรณ ไลฟ์ เซทเทิลเมนท์ 5 ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย (ONE-LS5-UI) เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่มีเข้ามามากตลอดในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา โดยปัจจุบันกองทุนมีมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหารมากกว่า 1 หมื่นล้านบาท และให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 8-9% ต่อปี ทั้งนี้ กองทุน ONE-LS5-UI จะเปิดเสนอขายระหว่างวันที่ 21 สิงหาคม – 29 สิงหาคม 2566

สำหรับกองทุน ONE-LS5-UI เน้นลงทุนในกรมธรรม์ประกันชีวิตในตลาดรองประเทศสหรัฐฯ ลงทุนในกรมธรรม์ในหน่วยลงทุนของกองทุนต่างประเทศเพียงกองทุนเดียว(กองทุนหลัก) คือกองทุน One Life Settlement Limited Partnership ซึ่งบริหารจัดการการลงทุนโดย SL Investment Management ในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (USD) ซึ่ง ONE-LS5-UI เป็นกองทุนรวมหน่วยลงทุนประเภท Feeder Fund กองทุนที่เน้นลงทุนแบบมีความเสี่ยงต่างประเทศในระดับความเสี่ยงที่ 8+ กองทุน ONE-LS5-UI มีอายุโครงการ 3 ปี 3 เดือน โดยระหว่างทางการลงทุน ผู้ถือหน่วยมีโอกาสไถ่ถอน (Redemption) หน่วยลงทุนได้ เมื่อถือลงทุนครบ 1 ปีขึ้นไป ซึ่งสามารถไถ่ถอนได้ตามที่บลจ.วรรณกำหนด เงินลงทุนขั้นต่ำ 500,000 บาท

“บริษัทเชื่อมั่นว่าการกระจายความเสี่ยงโดยแนะนำการลงทุนกองทุนทางเลือกจะสามารถสร้างโอกาสการลงทุนในช่วงสินทรัพย์ดั่งเดิมมีความผันผวนได้ดี โดยที่ผ่านมากองทุนทางเลือก ไลฟ์ เซทเทิลเมนท์ ได้รับการตอบรับจากลูกค้าดีต่อเนื่อง โดยบลจ.วรรณยังครองแชมป์กองทุนสินทรัพย์ทางเลือกอันดับหนึ่งของประเทศไทย โดยกองทุน ONE-LS4-UI มียอดขายประมาณ 3.3 พันล้านบาท ถือเป็นการ IPO กองทุนสินทรัพย์ทางเลือกที่ใหญ่ที่สุดในตลาดของปีนี้” นายพจน์ กล่าว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 ส.ค. 66)

Tags: , ,