บลจ.กสิกรไทย จับจังหวะลงทุนหุ้น Growth Stock ผ่าน 4 กองทุนเสริมพอร์ตแกร่ง

นายสุรเดช เกียรติธนากร กรรมการผู้จัดการ บลจ.กสิกรไทย เปิดเผยว่า ในปีที่ผ่านมาตลาดหุ้นทั่วโลก โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มเติบโตสูง (Growth Stock) ได้รับแรงกดดันจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) อย่างไรก็ดี ในปีนี้แรงกดดันดังกล่าวเริ่มลดลง ทำให้หุ้น Growth Stock กลับมามีความน่าสนใจอีกครั้ง ในฐานะหุ้นกำไรเติบโตสูงและมีพื้นฐานดี

ทั้งนี้ บลจ.กสิกรไทย มองจังหวะนี้เป็นโอกาสลงทุนในกลุ่มประเทศที่เศรษฐกิจมีอัตราการขยายตัวดีต่อเนื่องและในกลุ่มอุตสาหกรรมที่ได้รับประโยชน์จากการเปิดประเทศทั่วโลก ผ่านธีมการลงทุน “หุ้นเติบโตสูง” ซึ่งประกอบไปด้วยกองทุน K-VIETNAM, K-GHEALTH, K-CCTV และ K-CHX

นายสุรเดช กล่าวว่า ตลาดเวียดนามยังคงได้รับความสนใจจากนักลงทุนต่างชาติ และมีบริษัทชั้นนำระดับโลกหลายแห่งเลือกใช้เป็นฐานการผลิต ด้วยมีปัจจัยสนับสนุนจากรัฐบาลในด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การปฏิรูปตลาดเงินตลาดทุน และการดำเนินนโยบายทางการค้ากับนานาประเทศ รวมถึงมีประชากรวัยแรงงานเป็นจำนวนมาก ประกอบกับตลาดหุ้นเวียดนามยังมีความน่าสนใจในแง่การประเมินมูลค่าหุ้น (Valuation)ที่ถือว่ายังไม่แพง โดยคาดการณ์การเติบโตของกำไรต่อหุ้น (EPS Growth) ในปี 66 ไว้ที่ 9.6%

สำหรับกองทุน K-VIETNAM เน้นลงทุนหุ้นในกลุ่มธุรกิจที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์จากการเติบโตทางเศรษฐกิจของเวียดนาม ผ่านการบริหารแบบเชิงรุก (Active Management) ซึ่งที่ผ่านมากองทุนสามารถเอาชนะดัชนีชี้วัดได้อย่างสม่ำเสมอในทุกช่วงเวลา อีกทั้งยังติด 1st Quartile ในกลุ่ม Thailand OE Vietnam Equity นับตั้งแต่จัดตั้งกองทุน และได้รับการจัดอันดับ 4 ดาว Morningstar (ข้อมูล ณ 30 มิ.ย. 66)

ด้านตลาดหุ้น Healthcare บลจ.กสิกรไทย ยังมีมุมมองที่เป็นบวกในระยะยาว โดยเฉพาะมูลค่าหุ้นกลุ่ม Biotech ที่อยู่ในระดับน่าสนใจเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยในอดีต ซึ่ง K-GHEALTH มีสัดส่วนของหุ้นกลุ่ม Biotech อยู่ค่อนข้างมาก นอกจากนี้ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี การเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ สภาพแวดล้อมด้านกฎระเบียบที่สนับสนุนนวัตกรรมด้านสุขภาพ และเทรนด์ดูแลสุขภาพที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก ยังคงเป็นปัจจัยสนับสนุนให้หุ้น Healthcare มีโอกาสเติบโตในระยะยาว

สำหรับกองทุน K-GHEALTH มีนโยบายเน้นลงทุนหุ้นกลุ่มสุขภาพ (Healthcare) ทั่วโลกใน 4 อุตสาหกรรมหลัก ได้แก่

1.ยา (Pharmaceuticals) 2.เทคโนโลยีชีวภาพ (Biotechnology) 3.เทคโนโลยีทางการแพทย์ (Medical Technology) และ 4.ผู้ให้บริการด้านสุขภาพ (Healthcare Services) ผ่านกองทุนหลัก JPMorgan Funds – Global Healthcare Fund บริหารโดยผู้เชี่ยวชาญที่มากด้วยประสบการณ์การลงทุนในหุ้น Healthcare กว่า 24 ปี และได้รับการจัดอันดับ 4 ดาว Morningstar (ข้อมูล ณ 30 มิ.ย. 66)

ในขณะที่ภาพรวมเศรษฐกิจจีนมีการฟื้นตัวภายหลังเปิดประเทศโดยเฉพาะภาคบริการ และการบริโภคจะฟื้นตัวได้แรงในปีนี้จากเงินออมของประชากรจีนที่สูงเป็นประวัติการณ์และความคาดหวังเรื่องมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในครึ่งปีหลัง อย่างไรก็ดี มุมมองต่อตลาดหุ้นจีนในระยะสั้นจะยังมีความผันผวน ส่วนในระยะยาวยังคงมีความน่าสนใจ จากการที่จีนมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก และหากเศรษฐกิจจีนเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ย่อมส่งผลบวกต่อดัชนีหุ้นจีนต่างๆ โดยเฉพาะตลาดหุ้น A-Shares

ทั้งนี้ กองทุน K-CCTV และ K-CHX มีนโยบายลงทุนในหุ้นจีน A-Shares เท่านั้น โดย K-CCTV เน้นการบริหารแบบเชิงรุก

(Active Management) ในหุ้น New Economy มุ่งสร้างผลตอบแทนให้ชนะดัชนีชี้วัด พร้อมกลไกควบคุมความผันผวน ส่วน K-CHX เน้นการบริหารแบบเชิงรับ (Passive Management) ในหุ้นกลุ่มอุปโภคบริโภคและการเงิน มุ่งสร้างผลตอบแทนตามดัชนี FTSE China A50 และได้รับการจัดอันดับ 4 ดาว Morningstar (ข้อมูล ณ 30 มิ.ย. 66)

นายสุรเดช กล่าวเพิ่มเติมว่า ธีมการลงทุนหุ้นเติบโตสูงเหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่มีประสบการณ์การลงทุนในต่างประเทศสามารถรับความเสี่ยงจากความผันผวนได้ และมีความเชื่อมั่นในศักยภาพของบริษัทชั้นนำระดับโลกต่างๆ ซึ่งมีปัจจัยพื้นฐานที่ดี มีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง และมีโอกาสเติบโตในระยะยาว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 ก.ค. 66)

Tags: , ,