พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) และโฆษก บช.น. กล่าวว่า กรณีมีการชักชวนมาร่วมชุมนุมในพื้นที่กรุงเทพฯ วันที่ 7 ส.ค.นี้ เบื้องต้นมีการนัดชุมนุมของกลุ่มเยาวชนปลดแอกที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยแล้วเคลื่อนขบวนไปยังพระบรมมหาราชวังและสนามหลวง และกลุ่มอาชีวะพิทักษ์ประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่นัดชุมนุมบริเวณสะพานผ่านฟ้าลีลาศแล้วคาดว่าจะเคลื่อนขบวนไปยังทำเนียบรัฐบาล
“ตำรวจจะดูแลความสงบเรียบร้อยในภาพรวม และป้องกันไม่ให้สถานที่สำคัญซึ่งเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของประชาชนได้รับความเสียหาย ต้องจัดเตรียมกำลังให้พร้อม ส่วนสถานที่ราชการอื่นๆ จะมีเจ้าของสถานที่ดูแลอยู่แล้วส่วนหนึ่ง กรณีที่เสี่ยงให้เกิดการกระทบกระทั่งหรือบานปลายเจ้าหน้าที่จะหลีกเลี่ยงแล้วติดตามตัวมาดำเนินคดีในภายหลัง”
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าว
บช.น.ขอเตือนว่าขณะนี้มีการประกาศให้กรุงเทพฯ เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) เพื่อควบคุมและแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่มีสถานการณ์รุนแรง โดยการนัดชุมนุมดังกล่าวเป็นความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวกับความมั่นคงเรื่อง ห้ามการชุมนุม การทำกิจกรรม การมั่วสุมที่ก่อให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด–19) (ฉบับที่ 9) , พ.ร.บ.โรคติดต่อ, พ.ร.บ.จราจรทางบก, พ.ร.บ.การใช้เครื่องเสียง และประมวลกฎหมายอาญา โดย บช.น.จะมีการจัดตั้งจุดตรวจและจุดสกัดในพื้นที่โดยรอบ และดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย
สำหรับการดำเนินคดีกับผู้ชุมนุมกลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตยที่หน้าหอศิลปฯ แยกปทุมวัน เมื่อวันที่ 3 ส.ค.ที่ผ่านมา ได้จับกุมตัวผู้กระทำผิด 5 ราย พร้อมรถเครื่องเสียง 1 คัน ส่วนผู้กระทำผิดรายอื่นๆ จะมีการพิสูจน์ทราบเพื่อรวบรวมพยานหลักฐานมาดำเนินคดีต่อไป ที่ผ่านมาตั้งแต่เดือน ก.ค.63 บช.น.ได้ดำเนินคดีไปแล้ว 293 คดี และส่งเรื่องให้พนักงานอัยการแล้ว 196 คดี อยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวน 96 คดี ส่วนกรณีผู้ต้องหาที่มีพฤติกรรมขัดต่อเงื่อนไขการประกันตัวอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล เพื่อขอให้เพิกถอนการประกันตัวไม่น้อยกว่า 5 ราย
ขณะที่ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) กล่าวว่า จะมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้นเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อประชาชน โดยได้ถอดบทเรียนในการดูแลการชุมนุมที่ผ่านมาเพื่อดูแลบ้านเมืองให้เกิดความสงบเรียบร้อยร้อย ส่วนประชาชนที่ไม่เห็นด้วยกับการชุมนุมขอร้องอย่าออกมาเผชิญหน้า ปล่อยให้เป็นการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจที่ความเข้าใจ ไม่อยากเห็นภาพประชาชนปะทะกันเอง
“ถ้ามีการข้ามเส้น ทำให้ประชาชนเดือดร้อน เกิดความวุ่นวาย มีการใช้อาวุธต่างๆ ทำลายสิ่งของหรือสถานที่อะไรก็แล้วแต่ ต้องมีการระงับยับยั้งทันทีไม่ให้สถานการณ์บานปลาย”
พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (05 ส.ค. 64)
Tags: ตำรวจนครบาล, ปิยะ ต๊ะวิชัย, ม็อบ, เยาวชนปลดแอก