สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันจันทร์ (14 ส.ค.) โดยตลาดถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ และความกังวลว่าการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนจะส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันภายในประเทศอ่อนแอลงด้วย
- ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 68 เซนต์ หรือ 0.82% ปิดที่ 82.51 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 60 เซนต์ หรือ 0.69% ปิดที่ 86.21 ดอลลาร์/บาร์เรล
ภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนยังคงเป็นปัจจัยกดดันตลาดน้ำมัน โดยเฉพาะภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ส่งสัญญาณว่าอาจจะเกิดวิกฤตการณ์อีกครั้ง หลังจากบริษัทคันทรี การ์เดน ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของจีนผิดนัดชำระหนี้ดอกเบี้ยหุ้นกู้สกุลเงินดอลลาร์ซึ่งครบกำหนดเมื่อวันที่ 6 ส.ค. และประกาศระงับการซื้อขายหุ้นกู้ในประเทศจำนวน 11 ชุดเมื่อวานนี้
สถานการณ์ดังกล่าวไม่ต่างจากเมื่อ 2 ปีที่แล้ว เมื่อบริษัทเอเวอร์แกรนด์ ซึ่งเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของจีน ผิดนัดชำระหนี้ดอกเบี้ยหุ้นกู้ ซึ่งส่งผลให้เกิดความวิตกกังวลไปทั่วโลก เนื่องจากภาคอสังหาริมทรัพย์ถือเป็นเสาหลักสำคัญในการขยายตัวของเศรษฐกิจจีน และมีสัดส่วนผลผลิตทางเศรษฐกิจสูงเกือบ 30%
แซนดรา โช หัวหน้าฝ่ายวิจัยเอเชียแปซิฟิกของ CreditSights ซึ่งเป็นธุรกิจในเครือของฟิทช์ เรทติ้งส์กล่าวว่า ภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีนส่งสัญญาณอ่อนแอลงอย่างมาก ซึ่งรวมถึงยอดขายบ้านในช่วงครึ่งปีแรกที่ทรุดตัวลง นอกจากนี้ การผิดนัดชำระหนี้ของบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ ถือเป็นสถานการณ์ที่เลวร้ายสำหรับเศรษฐกิจจีน
นอกจากนี้ การแข็งค่าของดอลลาร์ยังส่งผลให้สัญญาน้ำมันดิบซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาแพงขึ้นและไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น ๆ โดยดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.34% แตะที่ 103.1898 เมื่อคืนนี้
นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐ โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันพรุ่งนี้ เวลา 21.30 น.ตามเวลาไทย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 ส.ค. 66)
Tags: WTI, น้ำมัน WTI, ราคาน้ำมัน