น้ำมัน WTI ปิดลบ 63 เซนต์ กังวลดีมานด์น้ำมันชะลอตัว

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบติดต่อกันเป็นวันที่ 2 ในวันอังคาร (17 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของอุปสงค์น้ำมัน หลังมีรายงานว่าดัชนีความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจเยอรมนีอ่อนแอลงและการใช้จ่ายของผู้บริโภคจีนซบเซาลง นอกจากนี้ นักลงทุนยังชะลอการซื้อขายก่อนที่จะรู้ผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในวันนี้

  • ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 63 เซนต์ หรือ 0.89% ปิดที่ 70.08 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 72 เซนต์ หรือ 0.97% ปิดที่ 73.19 ดอลลาร์/บาร์เรล

Ifo ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจของเยอรมนีเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจเยอรมนีปรับตัวลงสู่ระดับ 84.7 ในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2563 จากระดับ 85.6 ในเดือนพ.ย. และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 85.5

ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจได้รับผลกระทบจากความวิตกที่ว่า เศรษฐกิจของเยอรมนีจะได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการดำเนินนโยบายการค้าของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ

ทางด้านสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) เปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเดือนพ.ย. ปรับตัวขึ้นเพียง 3% ซึ่งชะลอตัวลงอย่างมากจากเดือนต.ค.ที่พุ่งขึ้น 4.8% และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 4.6%

นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนรู้ผลประชุมเฟดในวันนี้ (18 ธ.ค.) ตามเวลาสหรัฐฯ โดยนักลงทุนให้น้ำหนักเกือบ 100% ต่อการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมครั้งนี้ แต่ก็คาดว่าเจ้าหน้าที่เฟดอาจใช้ความระมัดระวังในการดำเนินนโยบายการเงินในปีหน้า หลังมีข้อมูลบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจยังคงแข็งแกร่ง ซึ่งรวมถึงยอดค้าปลีกที่สูงเกินคาด

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 0.7% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.6% หลังจากที่ปรับตัวขึ้น 0.5% ในเดือนต.ค. ส่วนเมื่อเทียบรายปี ยอดค้าปลีกเดือนพ.ย.พุ่งขึ้น 3.8% หลังจากที่เพิ่มขึ้น 2.9% ในเดือนต.ค.

สถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) รายงานว่าสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ลดลง 4.7 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 13 ธ.ค. ขณะที่นักลงทุนจับตาตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบอย่างเป็นทางการจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ในวันนี้

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 ธ.ค. 67)

Tags: , ,