น้ำมัน WTI ปิดลบ 56 เซนต์ กังวลภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลดลงในวันศุกร์ (28 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่า การทำสงครามภาษีของสหรัฐฯ อาจกระตุ้นให้เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันยังคงปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่สาม หลังจากรัฐบาลสหรัฐฯ เพิ่มแรงกดดันต่อประเทศผู้ผลิตน้ำมันในกลุ่มโอเปกอย่างเวเนซุเอลาและอิหร่าน

ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 56 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 69.36 ดอลลาร์/บาร์เรล

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 40 เซนต์ หรือ 0.54% ปิดที่ 73.63 ดอลลาร์/บาร์เรล

ในรอบสัปดาห์นี้ ราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 1.6% และราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับตัวขึ้น 1.9% ขณะที่ในเดือนมี.ค.นั้น ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวขึ้นมากกว่า 6% และราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับตัวขึ้นกว่า 7% นับตั้งแต่แตะระดับต่ำสุดในรอบหลายเดือนในช่วงต้นเดือน

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ มีแผนจะประกาศมาตรการภาษีตอบโต้สินค้านำเข้าหลายรายการ ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 2 เม.ย.นี้

นักวิเคราะห์ระบุว่า ความไม่แน่นอนด้านนโยบายของสหรัฐฯ กำลังกดดันความเชื่อมั่นของนักลงทุน โดยปัจจัยสำคัญของตลาดน้ำมันในสัปดาห์นี้คือการที่รัฐบาลของทรัมป์เพิ่มแรงกดดันต่อรัฐบาลของเวเนซุเอลา ซึ่งเมื่อวันจันทร์ (24 มี.ค.) ทรัมป์ประกาศกำหนดภาษี 25% สำหรับผู้ซื้อน้ำมันจากเวเนซุเอลา หลังจากก่อนหน้านี้สหรัฐฯ ได้ออกมาตรการคว่ำบาตรเกี่ยวกับการที่จีนนำเข้าน้ำมันจากอิหร่าน

มาตรการดังกล่าวอาจทำให้การผลิตน้ำมันดิบของเวเนซุเอลาลดลงราว 200,000 บาร์เรลต่อวันในปีนี้ และส่งผลให้การค้าขายน้ำมันระหว่างเวเนซุเอลาและจีนหยุดชะงัก

นอกจากนี้ บริษัทรีไลแอนซ์ อินดัสทรีส์ (Reliance Industries) ของอินเดีย ซึ่งเป็นผู้ดำเนินงานโรงกลั่นน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดในโลก เตรียมยุติการนำเข้าน้ำมันจากเวเนซุเอลา

ตลาดน้ำมันกำลังปรับตัวตามแนวโน้มอุปทานทั่วโลก ท่ามกลางมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ต่อเวเนซุเอลาและอิหร่าน โดยทรัมป์ให้คำมั่นว่าจะลดการส่งออกน้ำมันของอิหร่านลงเหลือศูนย์ และสหรัฐฯ ได้ออกมาตรการคว่ำบาตรกับอุตสาหกรรมน้ำมันของอิหร่านมาแล้ว 4 รอบ นับตั้งแต่ทรัมป์กลับมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่ 2

นักวิเคราะห์คาดว่าอุปทานน้ำมันในไตรมาส 2 จะตึงตัวกว่าที่คาดไว้เดิม โดยระบุว่า หากปริมาณน้ำมันจากเวเนซุเอลาหรืออิหร่านลดลง ก็จะถือเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดน้ำมัน

อย่างไรก็ตาม กลุ่มโอเปกพลัสซึ่งเป็นการรวมตัวของกลุ่มโอเปกและชาติพันธมิตรที่นำโดยรัสเซีย เตรียมเริ่มโครงการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันรายเดือนในเดือนเม.ย. และคาดว่าจะเดินหน้าปรับเพิ่มกำลังการผลิตต่อไปในเดือนพ.ค.

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (29 มี.ค. 68)

Tags: , ,