สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงในวันอังคาร (15 ก.พ.) หลังมีรายงานข่าวว่า รัสเซียได้ถอนกำลังทหารบางส่วนที่ประจำการในพื้นที่ชายแดนที่ติดกับยูเครนกลับสู่ฐานทัพในประเทศ ซึ่งได้ช่วยคลายความวิตกในตลาดเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและชาติตะวันตก
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค. ร่วงลง 3.39 ดอลลาร์ หรือ 3.6% ปิดที่ 92.07 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนเม.ย. ร่วงลง 3.2 ดอลลาร์ หรือ 3.3% ปิดที่ 93.28 ดอลลาร์/บาร์เรล
ก่อนหน้านี้ ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นเหนือระดับ 95 ดอลลาร์ทำสถิติสูงสุดในรอบกว่า 7 ปี ท่ามกลางความกังวลที่ว่า สหรัฐและชาติตะวันตกอาจคว่ำบาตรรัสเซีย หากมีการโจมตียูเครน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการส่งออกน้ำมันจากรัสเซีย
เจ้าหน้าที่รัฐบาลยูเครนได้เรียกร้องในวันอังคารให้มีความพยายามทางการทูตมากขึ้นเพื่อลดความตึงเครียดระหว่างยูเครนและรัสเซีย
บรรดานักลงทุนยังคงจับตาความคืบหน้าในการเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน ซึ่งอาจปูทางให้อิหร่านกลับมาส่งออกน้ำมันสู่ตลาดโลก
ทั้งนี้ ชาติมหาอำนาจและอิหร่านได้กลับมาเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์ที่กรุงเวียนนา ขณะที่สหรัฐได้เข้าร่วมการเจรจาดังกล่าวทางอ้อม หลังจากที่อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศถอนตัวจากการเจรจาในปี 2561
นอกจากนี้ บรรดาเทรดเดอร์จะรอการเปิดเผยข้อมูลสต็อกน้ำมันดิบจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงาน (EIA) ของรัฐบาลสหรัฐ ซึ่งจะเปิดเผยในวันพุธนี้ โดยนักวิเคราะห์ที่ได้รับการสำรวจโดยเอสแอนด์พี โกลบอล แพลทส์คาดว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐอาจจะลดลง 200,000 บาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 11 ก.พ.
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 ก.พ. 65)
Tags: lifestyle, น้ำมัน, น้ำมัน WTI, ราคาน้ำมัน