สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบติดต่อกันเป็นวันที่ 4 ในวันพุธ (5 มี.ค.) หลังสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบที่สูงเกินคาด นอกจากนี้ ตลาดยังคงถูกกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของสงครามการค้า และการที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ประกาศเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันในเดือนเม.ย.ตามกำหนดเดิม
- ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 1.95 ดอลลาร์ หรือ 2.86% ปิดที่ 66.31 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 1.74 ดอลลาร์ หรือ 2.45% ปิดที่ 69.30 ดอลลาร์/บาร์เรล
ราคาน้ำมัน WTI และน้ำมันเบรนท์ปิดตลาดร่วงลงกว่า 2% หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐฯ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบพุ่งขึ้น 3.6 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้นเพียง 600,000 บาร์เรล
ส่วนสต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคูชิง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 1.1 ล้านบาร์เรล
ราคาน้ำมันยังถูกกดดันจากการที่กลุ่มโอเปกพลัสประกาศเดินหน้าเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน 138,000 บาร์เรล/วันในเดือนเม.ย.ตามกำหนดเดิม ซึ่งเป็นการเพิ่มกำลังการผลิตครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2565
นอกจากนี้ นักลงทุนกังวลว่าการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และประเทศคู่ค้าจะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลก
อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันลดช่วงลบ หลังจากมีรายงานว่าสหรัฐฯ กำลังพิจารณายกเลิกภาษี 10% ที่เรียกเก็บจากการนำเข้าพลังงานจากแคนาดา ซึ่งรวมถึงน้ำมันดิบและน้ำมันเบนซิน ภายใต้ข้อตกลงการค้าเสรีสหรัฐฯ-เม็กซิโก-แคนาดา (USMCA)
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 มี.ค. 68)
Tags: WTI, น้ำมัน WTI, ราคาน้ำมัน