สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (9 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่า การที่รัฐบาลของหลายประเทศในเอเชียโดยเฉพาะอย่างยิ่งจีน ประกาศใช้มาตรการที่เข้มงวดเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ รวมทั้งการที่องค์การสหประชาชาติ (UN) เรียกร้องให้นานาชาติยุติการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลและถ่านหิน เนื่องจากภาวะโลกร้อนกำลังใกล้เข้าสู่ระดับวิกฤต
- ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. ร่วงลง 1.80 ดอลลาร์ หรือ 2.6% ปิดที่ 66.48 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 1.66 ดอลลาร์ หรือ 2.4% ปิดที่ 69.04 ดอลลาร์/บาร์เรล
ภาวะการซื้อขายในตลาดน้ำมันได้รับแรงกดดันจากความกังวลที่ว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน โดยญี่ปุ่นได้ประกาศภาวะฉุกเฉินในหลายจังหวัดเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ขณะที่จีนออกมาตรการคุมเข้มในหลายเมือง รวมทั้งยกเลิกเที่ยวบิน และการขนส่งในภาคสาธารณะ
คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติจีน (NHC) รายงานว่า พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่เพิ่มอีก 125 รายเมื่อวานนี้ โดยในจำนวนนี้เป็นผู้ติดเชื้อในประเทศ 94 ราย ซึ่งส่วนใหญ่มาจากเมืองเจิ้งโจว ทางตอนกลางของประเทศ และเมืองหยางโจว ทางตะวันออกของประเทศ
ทางด้านกระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่นเปิดเผยว่า พบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่จำนวน 14,472 ราย ส่งผลให้ยอดรวมผู้ติดเชื้อสะสมในประเทศอยู่ที่ 1,031,296 ราย ขณะเดียวกันมีผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 เพิ่มขึ้น 7 ราย ซึ่งทำให้ยอดรวมเพิ่มขึ้นเป็น 15,280 ราย
ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการที่ UN เรียกร้องให้นานาชาติยุติการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลและถ่านหิน เนื่องจากภาวะโลกร้อนกำลังใกล้เข้าสู่ระดับวิกฤต โดยรายงานของคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (IPCC) ระบุว่า ระดับก๊าซเรือนกระจกในชั้นบรรยากาศในขณะนี้สูงพอที่จะส่งผลเสียต่อสภาพภูมิอากาศไปอีกหลายสิบปีหรือหลายร้อยปีข้างหน้า
นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการ UN เรียกร้องให้นานาชาติยุติการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลและถ่านหิน รวมทั้งพลังงานอื่นๆที่ปล่อยมลพิษในระดับสูงโดยทันที
“รายงานนี้เป็นการส่งสัญญาณให้ยุติการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลและถ่านหินก่อนที่พวกมันจะทำลายโลกของเรา”
นายกูเตอร์เรสกล่าวในแถลงการณ์
นอกจากนี้ การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังสร้างแรงกดดันต่อตลาดน้ำมัน เนื่องจากทำให้สัญญาน้ำมันดิบซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาแพงขึ้นและไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.16% แตะที่ 92.9410 เมื่อคืนนี้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 ส.ค. 64)
Tags: lifestyle, WTI, น้ำมัน WTI, น้ำมันดิบ, ราคาน้ำมัน