สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 ปีเมื่อคืนนี้ (26 ต.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ตลาดน้ำมันจะเผชิญภาวะตึงตัวมากขึ้น เนื่องจากความต้องการใช้น้ำมันที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก ในขณะที่เศรษฐกิจฟื้นตัวจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐในวันนี้ และการประชุมของกลุ่มโอเปกพลัสในวันที่ 4 พ.ย.นี้
- ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 89 เซนต์ หรือ 1.1% ปิดที่ 84.65 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 13 ต.ค. 2557
- สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 41 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 86.40 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 13 ต.ค. 2561
สัญญาน้ำมันดิบได้รับปัจจัยบวกจากภาวะตลาดน้ำมันตึงตัว อันเนื่องมาจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นในช่วงที่เศรษฐกิจทั่วโลกเริ่มฟื้นตัวจากโควิด-19 นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้แรงหนุนจากความต้องการใช้พลังงานของจีน ท่ามกลางสภาพอากาศหนาวเย็น, การที่ผู้ผลิตพลังงานไฟฟ้าหันมาใช้น้ำมันดิบและน้ำมันดีเซล หลังการพุ่งขึ้นของราคาถ่านหินและก๊าซธรรมชาติ รวมทั้งจากการที่ซาอุดีอาระเบียได้ปฏิเสธข้อเรียกร้องจากสหรัฐที่ต้องการให้กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส เพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันอีกเพื่อสกัดราคาพลังงานที่พุ่งขึ้นในขณะนี้
ทั้งนี้ โอเปกพลัสมีมติเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันเพียง 400,000 บาร์เรล/วันในเดือนพ.ย. แม้ว่าหลายประเทศ เช่น สหรัฐและอินเดีย ต่างกดดันให้โอเปกพลัสเพิ่มกำลังการผลิตมากขึ้นเพื่อชะลอการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมัน
นักลงทุนจับตาการประชุมของโอเปกพลัสในวันที่ 4 พ.ย.เพื่อกำหนดนโยบายการผลิตน้ำมันสำหรับเดือนธ.ค.
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐ โดยสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของเอสแอนด์พี โกลบอล แพลทส์คาดการณ์ว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐจะลดลงเพียง 100,000 บาร์เรลในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 22 ต.ค.
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 ต.ค. 64)
Tags: lifestyle, น้ำมัน WTI, น้ำมันดิบ, ราคาน้ำมัน