สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (11 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากราคาน้ำมันดิ่งลงอย่างหนักเมื่อวันพุธ อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันปรับตัวในกรอบแคบ ๆ เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อในสหรัฐ รวมทั้งการคาดการณ์ที่ว่ารัฐบาลสหรัฐอาจระบายน้ำมันจากคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ (SPR) เพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันในประเทศ
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 25 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 81.59 ดอลลาร์/บาร์เรล
- สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 23 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 82.87 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบฟื้นตัวขึ้นเนื่องจากนักลงทุนเข้าช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากราคาสัญญาน้ำมันร่วงลงอย่างหนักถึง 3.3% เมื่อวันพุธ ภายหลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่าสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 1 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว
อย่างไรก็ดี ภาวะการซื้อขายในตลาดน้ำมันเมื่อคืนนี้ยังคงได้รับแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อในสหรัฐ หลังดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค พุ่งขึ้น 6.2% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2533
ตลาดยังได้รับปัจจัยลบจากการคาดการณ์ที่ว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน อาจประกาศระบายน้ำมันจากคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ (SPR) เพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันเบนซินในประเทศ
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังถูกกดดันจากการที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ประกาศปรับลดคาดการณ์ความต้องการน้ำมันในไตรมาส 4 ของปีนี้
ทั้งนี้ โอเปกระบุในรายงานประจำเดือนพ.ย.ว่า อุปสงค์น้ำมันจะอยู่ที่ระดับเฉลี่ย 99.49 ล้านบาร์เรล/วันในไตรมาส 4 โดยลดลง 330,000 บาร์เรล/วันจากตัวเลขคาดการณ์ในรายงานประจำเดือนต.ค.
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 พ.ย. 64)
Tags: lifestyle, WTI, น้ำมันดิบ, ราคาน้ำมัน