สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดทรงตัวเมื่อคืนนี้ (25 ต.ค.) หลังพุ่งขึ้นทะลุ 85 ดอลลาร์ แตะระดับสูงสุดในรอบ 7 ปี อันเนื่องมาจากต้องการใช้น้ำมันที่เพิ่มขึ้นทั่วโลกในช่วงที่เศรษฐกิจฟื้นตัวจากการแพร่ระบาดของโควิด-19
- ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดทรงตัวที่ระดับ 83.76 ดอลลาร์/บาร์เรล
- สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 46 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 85.99 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้นทะลุระดับ 85 ดอลลาร์ในระหว่างวัน และแตะที่ระดับสูงสุดในรอบ 7 ปี โดยได้แรงหนุนจากภาวะตึงตัวในตลาดน้ำมัน ท่ามกลางความต้องการใช้น้ำมันที่เพิ่มขึ้นทั่วโลกในช่วงที่เศรษฐกิจฟื้นตัวจากการแพร่ระบาดของโควิด-19
กลุ่มโอเปกและสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ระบุในรายงานประจำเดือนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ตลาดน้ำมันมีปริมาณต่ำมากในระยะสั้น
ทางด้านเบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐเปิดเผยในวันศุกร์ว่า จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐลดลงรายสัปดาห์เป็นครั้งแรกในรอบ 7 สัปดาห์ โดยลดลง 2 แท่น สู่ระดับ 443 แท่นในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งบ่งชี้ถึงแนวโน้มการผลิตน้ำมันที่ลดลง
นักลงทุนจับตาการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ในวันที่ 4 พ.ย.เพื่อกำหนดนโยบายการผลิตน้ำมันสำหรับเดือนธ.ค.
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐ โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันพรุ่งนี้ เวลา 21.30 น.ตามเวลาไทย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 ต.ค. 64)
Tags: lifestyle, น้ำมัน, น้ำมัน WTI, น้ำมันดิบ, ราคาน้ำมัน