สำนักข่าวนิกเกอิ เอเชียรายงานว่า บริษัทนิสสัน มอเตอร์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตยานยนต์จากญี่ปุ่น จะผลิตแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนที่ใช้วัตถุดิบต้นทุนต่ำเพื่อติดตั้งในรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) ที่จำหน่ายในตลาดเกิดใหม่ในปี 2569 หรือหลังจากนั้น
ทั้งนี้ นิสสันวางแผนจะผลิตแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนฟอสเฟต (LFP) ซึ่งราคาถูกกว่าแบตเตอรี่ลิเทียมนิกเกิลแมงกานีสโคบอลต์ออกไซต์ (NCM) ประมาณ 20%-30% แต่ข้อจำกัดของแบตเตอรี่ LFP คือมีความหนาแน่นของพลังงานน้อยกว่าแบตเตอรี่ NCM ซึ่งลดระยะการวิ่งต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้งลงประมาณ 20%-30%
ปัจจุบัน นิสสันกำลังพัฒนาแบตเตอรี่ LFP ที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาในเมืองอัตสึงิของประเทศญี่ปุ่นเป็นหลัก โดยนิสสันกำลังพิจารณาผลิตแบตเตอรี่เองที่โรงงานในเมืองโยโกฮาม่าและโรงงานแห่งอื่น ๆ
รายงานระบุว่า ปัจจุบัน บีวายดี (BYD) ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์ EV จากจีนนั้นเป็นผู้นำในด้านการพัฒนาแบตเตอรี่ LFP ส่วนซีเอทีแอล (CATL) ซึ่งเป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่จากจีนเพิ่งเปิดตัวต้นแบบแบตเตอรี่ LFP รุ่นใหม่ ขณะที่ในญี่ปุ่น โตโยต้า มอเตอร์และเออีเอสซี กรุ๊ป (AESC Group) กำลังพิจารณาพัฒนาแบตเตอรี่ชนิดดังกล่าว แต่การขยายระยะวิ่งยังคงเป็นเรื่องที่ท้าทาย
สำนักงานพลังงานสากล (IEA) ระบุว่า รถยนต์ EV ใหม่ที่ใช้แบตเตอรี่ LFP นั้นคิดเป็นสัดส่วน 27% ในปี 2565 ซึ่งพุ่งขึ้นจาก 3% เมื่อ 3 ปีก่อนหน้า โดยรถยนต์ EV ที่ผลิตจากจีนใช้แบตเตอรี่ LFP คิดเป็นสัดส่วน 95% ซึ่งในจีน ยอดรถยนต์ EV ที่ใช้แบตเตอรี่ LFP นั้นแซงหน้ารถยนต์ EV ที่ใช้แบตเตอรี่ NCM ในปี 2564
กลุ่มอุตสาหกรรมจีนระบุว่า บีวายดีครองส่วนแบ่งตลาดแบตเตอรี่ LFP ในจีนมากกว่า 40% โดยการใช้แบตเตอรี่ LFP ช่วยให้บีวายดีสามารถราคารถยนต์ EV และดันยอดขายในจีนได้ โดยยอดขายรถยนต์ EV ของบีวายดีแซงหน้ายอดขายรถยนต์ EV ของเทสลาเป็นครั้งแรกในไตรมาส 4/2566
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 ม.ค. 67)
Tags: นิสสัน มอเตอร์, ผลิตแบตเตอรี่, รถยนต์ไฟฟ้า, แบตเตอรี่ EV