พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ยืนยัน ยังไม่คิดถอดใจในการทำหน้าที่ เพราะไม่ใช่เวลา และยังเดินหน้าทำงานหนักต่อเนื่อง และคิดว่าได้ทำงานอย่างดีที่สุดแล้ว พร้อมกับรับฟังเสียงประชาชน รวมถึงติดตามสถานการณ์จากคณะแพทย์และสาธารณสุข ซึ่งก็เห็นใจเพราะบางคนทำงานต่อเนื่องมา 60 วัน โดยไม่มีวันพัก และได้สั่งการให้ไปดูแลในการเบิกค่าเบี้ยเลี้ยงเพิ่มเติมตามระเบียบราชการ รวมถึงเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย พร้อมกับขอร้องนักการเมืองอย่านำเรื่องสถานการณ์โควิดมาเป็นประเด็นทางการเมืองเพื่อสร้างความเกลียดชังกัน เพราะขณะนี้ประเทศชาติมีปัญหา
“ผมเห็นใจ ผมเสียใจ และพยามแก้ไขปัญหาอุปสรรคที่มีมากมาย นายกฯก็ยินดีทำหน้าที่ให้ดีที่สุด และต้องเป็นความร่วมมือระหว่างกัน ด้วยข้อมูล ด้วยข้อเท็จจริงต่างๆที่ตรงกัน ถึงจะแก้ปัญหาได้…นายกฯไม่เคยท้อ แต่ก็เสียใจกับคนที่สูญเสีย และให้กำลังใจกับคนที่ทำงาน อย่าท้อแท้”
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า มีความกังวลใจต่อกรณีผู้ป่วยติดเชื้อรอรับการรักษาตัวอยู่ที่บ้าน ซึ่งอาจไม่สามารถโทรศัพท์ติดต่อหน่วยงานต่างๆได้ เพราะมีคนใช้บริการเป็นจำนวนมากในแต่ละวัน แต่วันนี้ได้มีการปลดล็อกและเปิดช่องทางการติดต่อให้มากขึ้น และมอบหมายให้กสทช.มาช่วยดูแลเรื่องการให้บริการฟรีในการติดต่อด้านสาธารณสุขแล้ว
นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า ศบค.ยังถือเป็นกลไกหนึ่งที่มีความสำคัญ ซึ่งเป็นการบูรณาการการทำงานของทุกกระทรวงและให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถทำงานตามอำนาจหน้าที่ของตัวเองได้ เพราะหากมีเพียงกระทรวงสาธารณสุขเพียงอย่างเดียว ก็จะติดขัดในข้อกฏหมายหากต้องขอความร่วมมือจากหน่วยงานอื่นๆ จึงเป็นที่มาที่ต้องออกพรก.ฉุกเฉิน
ส่วนแนวทางการจัดหาวัคซีนเพิ่มเติมนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ยืนยันว่า ในเดือนสิงหาคมจะดีขึ้น ซึ่งในหลายประเทศยังมีปัญหาเรื่องการสั่งจองวัคซีนเช่นกัน เพราะประเทศผู้ผลิตวัคซีนก็มีขีดความสามารถในการผลิต เพราะมีหลายประเทศสั่งจองเหมือนกัน
ส่วนโรงงานผลิตวัคซีนในไทย เป็นการรับออเดอร์โดยการถ่ายทอดเทคโนโลยีมา ซึ่งบริษัทแม่จะเป็นผู้บริหารจัดการและจัดส่งในอาเซียน ซึ่งวัคซีนที่เข้ามาต้องมีการตรวจสอบมาตรฐานทุกยี่ห้อก่อนจะกระจายส่งมอบ และแต่ละจังหวัดจะได้รับการฉีดตามสถานการณ์การแพร่ระบาด และขอร้องอย่ามัวจับผิดกันเลย
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในเรื่องวัคซีนยังได้ให้กระทรวงการต่างประเทศช่วยเร่งเจรจาอีกทางหนึ่งกับบริษัทผู้ผลิตที่จะติดต่อจัดหาซื้อเพิ่มเติม หากสามารถนำเข้าได้จริงและมีคุณภาพพร้อมที่จะปลดล็อคการนำเข้าและให้ผ่านมาตรฐานกระทรวงสาธารณสุข โดยเปิดรับทุกยี่ห้อ และยืนยันว่า วัคซีนไฟเซอร์จากสหรัฐอเมริกาจะมาในวันที่ 30 ก.ค.
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ ไม่ได้มีปัญหาในระดับผู้บริหาร แต่มีปัญหาภายนอกคือ มีประชาชนรอรับการฉีดวัคซีนเป็นจำนวนมากและเกิดภาพความแออัด ซึ่งต้องมีการเร่งการฉีดวัคซีนให้รวดเร็ว โดยเฉพาะกลุ่มผู้บริการทั้ง พนักงานขับรถ การส่งไปรษณีย์ การส่งอาหาร ส่วนการปิดร้านอาหารในห้างสรรพสินค้า เนื่องจากทางคณะแพทย์มีความเป็นห่วง เพราะยังมีพบการแอบรับประทานอาหารและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อยู่
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้เสนอในการประชุมกับทางผู้ว่าราชการ 12 จังหวัดเมื่อวานนี้ว่า ควรจะมีจัดตั้งหมู่บ้านสีฟ้าเกิดขึ้น โดยให้ชุมชนดูแลกันเองให้เกิดความเข้มแข็ง เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน รวมถึงการเร่งการเบิกจ่ายช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 ก.ค. 64)
Tags: ประยุทธ์ จันทร์โอชา, สาธารณสุข, โควิด-19