นายกฯ สั่งเฝ้าระวังฝุ่น PM2.5 แนวโน้มสูงขึ้นและเกินมาตรฐานช่วงเข้าสู่ฤดูหนาว

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ติดตามสถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 ที่มาช่วงหน้าหนาวอย่างใกล้ชิด ซึ่งขณะนี้อากาศเริ่มเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ฤดูหนาว ทำให้สภาพอากาศนิ่ง ส่งผลให้ฝุ่นละออง PM2.5 สะสมเกินค่ามาตรฐาน

ทั้งนี้ เว็บไซต์ IQAIR ได้รายงานคุณภาพอากาศของประเทศไทย พบค่ามลพิษฝุ่น PM2.5 AQI เกิน 100 อยู่ในระดับที่ไม่ดีต่อสุขภาพ ใน 10 สถานที่ ได้แก่ 1.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ 162 AQI 2. บางคนที จ.สมุทรสงคราม 158 AQI 3. หนองบัวลำภู จ. หนองบัวลำภู 156 AQI 4. สมุทรสงคราม จ.สมุทรสงคราม 154 AQI 5. น้ำพอง จ.ขอนแก่น 152 AQI 6.ลำปาง จ.ลำปาง 147 AQI 7. โพธาราม จ.ราชบุรี 147 AQI 8. ทวีวัฒนา กรุงเทพฯ 145 AQI 9. สันกำแพง จ.เชียงใหม่ 144 AQI 10. นครไชยศรี จ.นครปฐม 137 AQI

สำหรับฝุ่น PM 2.5 ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล อาจมีแนวโน้มสูงขึ้นและเกินมาตรฐานในช่วงปลายปี สาเหตุหลักมาจากยานพาหนะกว่า 50% โดยเฉพาะรถที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล ซึ่งทางกรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้บูรณาการกับกรมควบคุมมลพิษ กรมควบคุมโรค กรมอนามัย กรมอุตุนิยมวิทยา กรมการขนส่งทางบก กองบังคับการตำรวจจราจร ร่วมกันขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง มีการจัดตั้งสถานีตรวจวัดฝุ่นละออง PM2.5 แบบถาวร ทั้งสิ้น 70 จุดทั่วกรุงเทพฯ บริเวณริมถนนที่มีการจราจรหนาแน่น ในพื้นที่พักอาศัย และบริเวณสวนสาธารณะ เพิ่มความถี่ในการตรวจวัดควันดำ มีรถตรวจวัดคุณภาพอากาศ เพื่อเข้าไปวัดปริมาณฝุ่นในทุกพื้นที่

ในส่วนของต่างจังหวัด สาเหตุของฝุ่นมาจากลมที่พัดนำฝุ่นละอองจากการเผาในที่โล่ง และประเทศเพื่อนบ้าน ได้มีการติดตามสื่อสารให้ข้อมูล เฝ้าระวังสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 สอดคล้องกับร่างแผนเฉพาะกิจเพื่อการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ ปี 2565 ที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้จัดทำประกอบด้วยแนวทางการดำเนินงานที่ต้องเร่งรัดและเน้นย้ำการปฏิบัติ เพิ่มประสิทธิภาพการแก้ไขปัญหา ภายใต้แนวคิด “1 สื่อสาร 5 ป้องกัน 3 เผชิญเหตุ” เพื่อควบคุมมลพิษทางอากาศให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานและปลอดภัยต่อสุขภาพของประชาชน

“นายกฯ มีความห่วงใยพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะผู้สูงอายุ และเด็กเล็ก ในพื้นที่ดัชนีคุณภาพอากาศที่อยู่ในระดับที่ไม่ดีต่อสุขภาพ ขอให้ดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ สวมหน้ากากอนามัยที่เหมาะสม โดยเฉพาะหน้ากาก N95 งดทำกิจกรรมกลางแจ้ง รวมทั้งลดปัจจัยเสี่ยง หมั่นตรวจเช็คยานพานหนะของตัวเอง ช่วยกันสอดส่องการเผาขยะ เศษใบไม้ กิ่งไม้ หรือการเผาเพื่อกำจัดเศษวัสดุการเกษตรต่างๆ ในพื้นที่โล่งแจ้ง รวมถึงติดตามข่าวสารเกี่ยวกับฝุ่น PM 2.5 อย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันตัวเองและช่วยสิ่งแวดล้อมด้วย” นายธนกร กล่าว

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังห่วงใยพี่น้องประชาชนในช่วงอากาศเปลี่ยนแปลง อุณหภูมิลดลงในหลายพื้นที่ โดยนายกรัฐมนตรี ขอให้ทุกคนดูแลสุขภาพโดยเฉพาะเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และผู้ป่วยควรดูแลร่างกายให้อบอุ่น ป้องกันโรคที่มาพร้อมกับอากาศหนาวทั้งโรคไข้หวัดใหญ่ ปอดอักเสบ โดยเฉพาะการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ปัจจุบันยังมีการแพร่ระบาดอยู่ในทุกพื้นที่

นายธนกร กล่าวว่า เนื่องจากเข้าสู่เทศกาลปีใหม่ คนส่วนใหญ่ใช้โอกาสนี้ในการเดินทางท่องเที่ยว หรือร่วมกิจกรรมสังสรรค์และงานบันเทิงต่างๆ รวมทั้งบางพื้นที่ยังเปิดให้ดื่มสุราภายในร้านได้ อาจทำให้เกิดการแออัดในสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ได้ ซึ่งการเคลื่อนที่ของคนและการรวมกลุ่มจำนวนมาก อาจทำให้มีการแพร่หรือรับเชื้อไวรัสโควิด-19 รวมทั้งโรคอื่นได้งานขึ้น จึงอยากให้ประชาชนดูแลสุขภาพตนเอง เพื่อให้ปลอดโรคและปลอดภัยในช่วงท้ายปลายปีนี้ด้วย

พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า จากปัจจัยทางธรรมชาติที่ลมตะวันออกเฉียงเหนือพัดมาเจอกับลมตะวันตกเฉียงใต้ ทำให้ลมพัดช้าลงในช่วงวันที่ 5-7 ธ.ค.นี้ ส่งผลให้ปริมาณฝุ่นที่สะสมในอากาศมีมากขึ้น ทำให้ค่าปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กหรือ PM 2.5 สูงขึ้นได้

ซึ่งในทุกปีช่วงระหว่างเดือน ธ.ค.-ก.พ. จะมีโอกาสเกิดฝุ่น PM 2.5 ในอากาศเกินค่ามาตรฐานได้ โดยช่วงตลอดสัปดาห์นี้ในพื้นที่ กทม. จะมีความเร็วลมลดลงอยู่ที่ประมาณ 11-12 กม./ชม และมีอากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส ทำให้อาจเกิดฝุ่นละอองในอากาศเพิ่มขึ้นได้ ในเขตคลองสามวา มีนบุรี หนองแขม ทวีวัฒนา บางแค บางขุนเทียน และบางบอน

ทั้งนี้ กทม.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เตรียมแผนรองรับเพื่อแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ไว้แล้ว เช่น การควบคุมการปล่อยมลพิษจากยานพาหนะ สถานประกอบการ การเผาในที่โล่ง โดยขอความร่วมมือจากประชาชนหลีกเลี่ยงการทำให้เกิดมลพิษทางอากาศ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 ธ.ค. 64)

Tags: , , , , , , , , ,