ข่าว
นายกฯ สั่งรัฐวิสาหกิจเร่งรัดเบิกจ่ายหวังกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงโค้งสุดท้าย
พ.ย.
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กำชับให้รัฐวิสาหกิจทุกแห่งเร่งรัดการเบิกจ่ายในไตรมาสสุดท้ายให้เป็นไปตามเป้าหมาย พร้อมรับทราบรายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ประจำเดือนตุลาคม 2564 มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้มีสัญญาณฟื้นตัวอย่างชัดเจนจากการผลักดันเปิดประเทศที่ทำให้มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น รวมทั้งยังได้รับการสนับสนุนจากภาคการลงทุนและการส่งออกเริ่มส่งสัญญาณทิศทางที่ดีขึ้นเช่นกัน
ทั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) รายงานผลการเบิกจ่ายงบลงทุนในปี 2564 ณ สิ้นเดือนตุลาคม 2564 มีผลการเบิกจ่ายงบลงทุนสะสม จำนวน 269,883 ล้านบาท หรือคิดเป็น 89% ของแผนการเบิกจ่ายสะสม และสำหรับผลการเบิกจ่ายงบลงทุนในปี 2565 สำหรับรัฐวิสาหกิจปีงบประมาณที่ได้เริ่มการเบิกจ่ายงบลงทุนปีงบประมาณ 2565 มา 1 เดือน (ต.ค.64) มีผลการเบิกจ่าย 3,222 ล้านบาท หรือคิดเป็น 47% ของแผนการเบิกจ่ายสะสม
โดยรัฐวิสากิจที่สามารถเบิกจ่ายได้ตามแผนและมีการเบิกจ่ายสะสมสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ บมจ.ปตท.(PTT) , การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) , การรถไฟขนส่งมวลแห่งประเทศไทย (รฟม.) ,การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และ บมจ.โทรคมนาคมแห่งชาติ (NT) ซึ่งมีโครงการขนาดใหญ่สำคัญที่เบิกจ่ายได้ตามแผน อาทิ โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี (รฟม.) ผลการเบิกจ่าย 14,273 ล้านบาท คิดเป็น 105% ของการเบิกจ่ายต่อแผนฯ, โครงการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง บางซื่อ-รังสิต (รฟท.) ผลการเบิกจ่าย 8, 327 ล้านบาท คิดเป็น 117% ของการเบิกจ่ายต่อแผนฯ เป็นต้น
นอกจากนี้ สศค.ยังรายงานภาวะเศรษฐกิจการคลังประจำเดือน ต.ค.64 พบเศรษฐกิจไทยส่งสัญญาณปรับตัวดีขึ้น โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่มีแนวโน้มดีขึ้น ทำให้มีกิจกรรมทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการท่องเที่ยวภายในประเทศและการลงทุนภาคเอกชนที่ปรับตัวดีขึ้น รวมทั้งการส่งออกสินค้ายังคงขยายตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 8 อีกด้วย
ขณะที่การลงทุนภาคเอกชนก็มีสัญญาณปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อนหน้า โดยการลงทุนภาคเอกชนในหมวดเครื่องมือเครื่องจักร นำเข้าสินค้าทุนในเดือน ต.ค.64 ขยายตัวที่ 21.8% ต่อปี มูลค่าการส่งออกสินค้ารวมในรูปเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐเดือน ต.ค.64 อยู่ที่ 22,738.7 ล้านดอลลาร์ ขยายตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 8 ที่ 17.4 %ต่อปี
นอกจากนี้ กิจกรรมทางเศรษฐกิจก็มีทิศทางดีขึ้น ด้านการท่องเที่ยวในเดือน ต.ค.64 มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติประเภทพิเศษ นักท่องเที่ยวกลุ่มสิทธิพิเศษ (Thailand Privilege Card) นักธุรกิจ กลุ่มสุขภาพที่เข้ามารับบริการทางการแพทย์ในประเทศไทยรวม จำนวน 20,272 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวจากเยอรมนี สหรัฐฯ สหราชอาณาจักร และฝรั่งเศส สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยในเดือน ต.ค.64 อยู่ที่ 4,596,227 คน
“ทุกภาคส่วนทั้งรัฐวิสาหกิจและการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เร่งรัดเบิกจ่ายรัฐวิสาหกิจและส่งเสริมโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อกระตุ้นให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจในมิติต่างๆ เพื่ออัดฉีดเงินสู่ระบบ ในช่วงโค้งสุดท้ายของปีเพื่อรักษาโมเม้นตัมการเติบโตทางเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวอย่างเข้มแข็งและต่อเนื่องไปถึงปีหน้า ซึ่งหลายฝ่ายรวมทั้งกระทรวงการคลังยังยืนยันประเมินการเติบโตเศรษฐกิจไทยในปี 65 อยู่ที่ 4% แม้ไวรัสโควิด-19 จะมีการกลายพันธุ์ ซึ่งทั่วโลกขณะนี้ รวมทั้งประเทศไทยโดยนายกรัฐมนตรีในฐานะผู้อำนวยการ ศบค. ได้สั่งให้มีมาตรการสกัดกั้นการแพร่ระบาดไวรัสโควิด -19 โอไมครอนอย่างเด็ดขาดด้วย”
นายธนกร กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 พ.ย. 64)
Tags: กระตุ้นเศรษฐกิจ, ธนกร วังบุญคงชนะ, ประยุทธ์ จันทร์โอชา, รัฐวิสาหกิจ, สศค.