นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ลงพื้นที่ชัยนาท ติดตามสถานการณ์น้ำ พร้อมด้วยพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีว่า
นายกรัฐมนตรี ได้กำชับให้ส่วนราชการและ ส.ส. ในพื้นที่นำประสบการณ์ ข้อมูลเดิมมาบริหารจัดการ เตรียมแผนให้พร้อม โดยเฉพาะต้องเตรียมแผนเผชิญเหตุไว้ล่วงหน้า พร้อมสร้างการรับรู้ให้ประชาชนเข้าใจ พร้อมกับเน้นย้ำเรื่องการกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ เพื่อเปิดทางน้ำ ให้มีการระบายอย่างมีประสิทธิภาพ แต่ต้องไม่เกิดผลกระทบในวงกว้างต่อพื้นที่เศรษฐกิจ รวมทั้งต้องมีการวางแผนกักเก็บน้ำไว้ใช้เพื่อการเกษตรในฤดูแล้ง ในพื้นที่นอกเขตชลประทาน เพื่อให้มีน้ำเพียงพอต่อการทำเกษตร
นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า รัฐบาลมีความตั้งใจที่จะแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนให้ดีที่สุด และพร้อมให้การสนับสนุนแผนงาน/โครงการ ต่างๆ ที่สอดคล้องกับการแก้ไขปัญหาในภาพรวม เกิดประโยชน์ต่อประชาชนอย่างแท้จริง
จากนั้น นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะได้ตรวจสถานการณ์น้ำในเขื่อนเจ้าพระยา เพื่อเตรียมรับน้ำเหนือหลากและวางแผนป้องกันพื้นที่เจ้าพระยาตอนล่าง ณ เขื่อนเจ้าพระยา ต่อไป
อย่างไรก็ตาม การระบายน้ำเจ้าพระยามีศักยภาพการระบายน้ำฝั่งตะวันตกและฝั่งตะวันออก รวม 625 ลบ.ม./วินาที แยกเป็น ฝั่งตะวันตกมีศักยภาพการระบายน้ำ 465 ลบ.ม./วินาที และฝั่งตะวันออกมีศักยภาพการระบายน้ำ 160 ลบ.ม./วินาที ซึ่งคาดว่าปลายเดือนกันยายนจะมีปริมาณฝนมากขึ้น แต่ยังสามารถระบายน้ำลงสู่พื้นที่ต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพไม่ส่งผลกระทบในภาพรวม
สำหรับจังหวัดชัยนาท มีแผนงาน/โครงการภายใต้แผนงานบูรณาการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ จำนวน 54 โครงการงบประมาณ 1,334.84 ล้านบาท พื้นที่ชลประทานรับประโยชน์ 92,694 ไร่ ประชาชนได้รับประโยชน์ 2,948 ครัวเรือน พื้นที่ที่ได้รับการป้องกัน 8,000 ไร่ สามารถเพิ่มปริมาณน้ำเก็บกัก 8.80 ล้าน ลบ.ม. และเพิ่มแนวป้องกันตลิ่ง 1.95 กม.
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 ก.ย. 64)
Tags: ชัยนาท, ธนกร วังบุญคงชนะ, น้ำท่วม, ประยุทธ์ จันทร์โอชา, อนุพงษ์ เผ่าจินดา