พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงประกาศเปิดประเทศในวันที่ 1 พ.ย.นี้ว่า รัฐบาลได้เตรียมมาตรการความพร้อมเอาไว้ ในขณะที่มีคำถามว่ารัฐบาลจะทำได้จริงหรือไม่ และมีแต่การวิพากษ์วิจารณ์ ซึ่งไม่สร้างสรรค์ ควรจะมาช่วยกัน เพราะทั้งภาคประชาสังคม โรงแรม ผู้ที่เดือดร้อนทั้งหมดได้ขอมา รัฐบาลก็ทำให้ แต่ก็ต้องมีมาตรการและทำตามที่วางไว้ ถ้าไม่ทำตามตนเองก็ต้องมารับผิดชอบ จึงอยากขอให้เห็นใจกันบ้าง
ความพร้อมในขณะนี้ คือ มีหลายสิบประเทศในกลุ่มเสี่ยงต่ำที่เรามีความจำเป็นต้องประกาศออกไปว่าจะสามารถเปิดรับนักท่องเที่ยวเข้ามาแบบไม่ต้องกักตัว ก็แล้วแต่ว่าเขาจะส่งประชาชนเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยหรือไม่ เราจะมีมาตรการที่เขารับได้หรือไม่ และสถานการณ์ของเขาเป็นอย่างไร
“ไม่ใช่นึกว่าจะเปิดประเทศ โครมครามมันไม่ง่าย ผมเข้าใจดี ได้คิดละเอียดหมดแล้ว แต่ไม่อยากให้นำไปพูดในลักษณะติติงทุกเรื่อง 40-50 ประเทศเขาไม่ได้มาทีเดียว และการเข้ามาต้องมีมาตรการตรวจสอบตั้งแต่ต้นทาง และให้ไปในพื้นที่ปลอดภัยของเรา”
นายกรัฐมนตรี กล่าว
ส่วนตัวเลขติดเชื้อโควิด-19 ที่ลดลงถือเป็นสัญญาณดีที่จะเปิดรับนักท่องเที่ยวใช่หรือไม่นั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สั่งการทุกวัน วันไหนตัวเลขสูงก็ได้เตือนและสั่งการไปให้บริหารจัดการให้ดี สิ่งสำคัญคือวิถีชีวิตประชาชนสำคัญสุด แต่ยังมีการพูดคุยโดยลดหน้ากากลง
แม้ว่าจะมีปัญหาโควิด น้ำท่วมและสถานการณ์ทางการเมือง ยิ่งมีปัญหาก็ยิ่งมีกำลังใจ มั่นใจหรือไม่ว่าจะนำพาประเทศไปได้ โดยเฉพาะกำลังใจจากประชาชนจากข้าราชการที่ร่วมมือ และขอให้ร่วมมือกันมากยิ่งขึ้น อยากได้อะไรก็ต้องร่วมมือ นายกรัฐมนตรีพร้อมให้ทุกอย่าง ถ้าร่วมมือกันก็ไปได้หมดทุกเรื่อง วันนี้อย่าไปตีการเมืองกันอีก
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงการจัดงาน งาน World Expo 2020 Dubai ณ เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งต่างชาติชื่นชมและอยากมาเที่ยวเมืองไทยว่า สื่อต้องช่วยกันประชาสัมพันธ์ ต้องช่วยรัฐบาล อะไรที่ไม่จริงต้องช่วยชี้แจง ถ้าถามไปมา ก็ทะเลาะกันแบบนี้ สิ่งไหนดีก็ต้องร่วมมือกัน และตนเองไม่จำเป็นต้องให้ใครมาเข้าข้าง แต่ต้องการข้อเท็จจริงที่สื่อเสนอไป
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ สั่งการให้ทุกหน่วยงานพูดคุยและทำความเข้าใจกับสถานประกอบการต่าง ๆ ให้เข้าใจถึงสถานการณ์ และความจำเป็นในการดำเนินมาตรการของรัฐบาล ตลอดจนขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนปฏิบัติตามมาตรการ เพื่อให้สามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจควบคู่ไปกับการดูแลด้านสาธารณสุขของประชาชนไทย รวมถึงผู้ที่เดินทางเข้ามาในประเทศด้วย
ทั้งนี้ การเปิดพื้นที่บลูโซนนั้นเป็นมาตรการเพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่น แรงจูงใจให้แก่นักท่องเที่ยวและผู้ประกอบการในพื้นที่ โดยสามารถกำหนดหรือปรับมาตรการป้องกันและควบคุมโรคให้เป็นไปตามระดับการจัดการตามพื้นที่เฝ้าระวังได้เอง และสามารถเปิดกิจกรรมได้ทุกประเภท ยกเว้นสถานบริการ สถานบันเทิง และสถานบริการอื่นในลักษณะคล้ายกันที่ยังไม่อนุญาตให้เปิด รวมถึงห้ามจัดกิจกรรมรวมกลุ่มคนมากกว่า 500 คน
โดยการเปิดพื้นที่บลูโซนจะแบ่งออกเป็น 4 ระยะ ขึ้นอยู่กับความพร้อมของแต่ละพื้นที่ โดยเน้นการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนในพื้นได้เกิน 70% รวมถึงความพร้อมด้านสาธารณสุข อัตราการครองเตียงเหลืองแดงต้องไม่เกิน 80% สัดส่วนผู้ติดเชื้อรายใหม่จะต้องไม่เกิน 5-10 คน ต่อจำนวนประชากร 1 แสนคนต่อวัน
นายธนกร กล่าวว่า สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเดินทางเข้ามานั้น ประเทศไทยยินดีต้อนรับ แต่จะมีเงื่อนไขและวิธีปฏิบัติที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับระดับความเสี่ยงของประเทศต้นทาง และการฉีดวัคซีนของนักท่องเที่ยว และเป็นไปตาม 3 แนวทางการรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ซึ่งรัฐบาลเชื่อมั่นว่า นโยบายการเปิดประเทศดังกล่าว จะมีส่วนสำคัญในการพลิกฟื้นเศรษฐกิจของไทย โดยเฉพาะในภาคการท่องเที่ยวให้กลับมาเดินหน้าต่อไปได้ รวมไปถึงการพลิกโฉมประเทศด้วย
อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี และรัฐบาลยังคงให้ความสำคัญกับการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยเฉพาะการเร่งฉีดวัคซีนให้ครอบคลุม เพื่อทำให้ไทยเป็นจุดหมายปลายทางที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวและมาตรการควบคุมดูแลทางสาธารณสุขที่เป็นระบบ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 ต.ค. 64)
Tags: lifestyle, ท่องเที่ยว, นักท่องเที่ยว, ประยุทธ์ จันทร์โอชา, เปิดประเทศ