พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวภายหลังติดตามสถานการณ์น้ำท่วม จ.สิงห์บุรีว่า สถานการณ์น้ำจะมีปริมาณสูงขึ้นในวันที่ 23-30 ต.ค.นี้ ในพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาจะต้องมีการตรวจสอบทั้งในและนอกพนังกั้นน้ำ ซึ่งทราบดีอยู่แล้วว่าไม่สามารถเบรกน้ำไว้ได้ แต่จากการบริหารจัดการเชื่อว่าน้ำจะยังไม่ล้นแนวออกมา แต่ประชาชนที่อาศัยนอกพนังกั้นน้ำจะได้รับความเดือดร้อนพอสมควร
จากการสอบถามประชาชนก็เข้าใจสถานการณ์ดีที่มีพายุเข้ามาติดต่อกันสองลูก จึงต้องสร้างการรับรู้ว่าจะอยู่กับน้ำอย่างไร และจะอยู่กับโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงได้อย่างไร ขณะที่ประเทศไทยอยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำก็ต้องมีการเตรียมการไว้ ซึ่งรัฐบาลได้มีแผนแม่บทไว้แล้ว ปัญหาประเทศมีมาก แต่ต้องดูว่ารัฐบาลได้ทำอะไรไว้บ้าง ทุกอย่างต้องใช้เวลา
“วันนี้ได้มาเป็นกำลังใจให้ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ทุกคน ที่เหน็ดเหนื่อย ทหารตำรวจ ก็เหนื่อยช่วยดูแลความปลอดภัยชีวิตทรัพย์สิน สิ่งที่ต้องระวังคือ อันตรายจากสัตว์ร้าย เพราะสัตว์ต้องหนีน้ำ ต้องระวังที่สุด”
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้ย้ำเตือนไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ นายกเทศมนตรี และส่วนงานที่เกี่ยวข้องให้รวมพลังช่วยเหลือ ตรงความต้องการของประชาชน โดยรัฐบาลได้อนุมัติสร้างพนังกั้นน้ำไปแล้ว 460 ล้านบาทให้กับสิงห์บุรี พร้อมย้ำว่าที่ผ่านมารัฐบาลได้บริหารจัดการน้ำทั้งระบบ น้ำท่วม น้ำแล้ง ทั้งขุดลอกคูคลอง สร้างประตูน้ำ เพื่อที่จะเก็บกักน้ำเอาไว้ได้ด้วย เพื่อแก้ปัญหาภัยแล้ง ต้องดูทั้งน้ำอุปโภค บริโภค น้ำการเกษตรอุตสาหกรรม น้ำเพื่อรักษาระบบนิเวศน์ นี้คือการบริการจัดการทั้งระบบ ที่มีความซับซ้อน เพราะปัญหาสะสมมายาวนาน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 ต.ค. 64)
Tags: ประยุทธ์ จันทร์โอชา, สถานการณ์น้ำ, สิงห์บุรี