นายกฯยืนยันไทยพร้อมเป็นเจ้าภาพประชุมผู้นำบิมสเทค ครั้งที่ 6 วันที่ 3-4 เม.ย.ที่กรุงเทพ

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เตรียมความพร้อมในการให้การต้อนรับผู้นำและผู้แทนจาก 6 ประเทศสมาชิกบิมสเทค (ความริเริ่มแห่งอ่าวเบงกอลสำหรับความร่วมมือหลากหลายสาขาทางวิชาการและเศรษฐกิจ Bay of Bengal Initiative Multi-Sectoral Technical and Economic Cooperation)

ได้แก่ 1.ศาสตราจารย์มูฮัมหมัด ยูนุส ประธานคณะที่ปรึกษารัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนบังกลาเทศ 2.ดาโช เชริง โตบเกย์ นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรภูฏาน 3.นายนเรนทร โมที นายกรัฐมนตรีแห่งสาธารณรัฐอินเดีย 4.นายเค พี ศรรมะ โอลี นายกรัฐมนตรีแห่งเนปาล 5.ดร. หริณี อมรสุริยะ นายกรัฐมนตรีแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา และ 6. พลเอกอาวุโส มิน ออง ไลง์ ประธานสภาบริหารแห่งรัฐ นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ซึ่งเบื้องต้น จากการรายงานข่าวผ่านสำนักข่าวต่างประเทศ โฆษกรัฐบาลเมียนมา ได้แถลงข่าวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา แจ้งว่า นายกรัฐมนตรีเมียนมา จะเดินทางมาร่วมประชุมผู้นำบิมสเทค ครั้งที่ 6 (The Sixth BIMSTEC Summit) ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 3-4 เมษายน 2568 ณ โรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพมหานคร ในครั้งนี้ด้วย

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีแสดงความมั่นใจว่าประเทศไทยและกรุงเทพมหานครมีความพร้อมในการจัดการประชุมครั้งนี้ จึงขอเชิญชวนให้คนไทย ทุกภาคส่วนร่วมกันเป็นเจ้าบ้านให้การต้อนรับผู้ร่วมประชุม

โดยการประชุมบิมสเทคครั้งที่ 6 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพนี้ เป็นการประชุมระดับนานาชาติครั้งแรกของรัฐบาลปัจจุบัน ซึ่งจะเป็นโอกาสสำคัญที่ไทยจะแสดงศักยภาพในฐานะเจ้าภาพ เพื่อผลักดันความร่วมมือระดับภูมิภาคกับประเทศสมาชิก ในการเสริมสร้างการพัฒนาเศรษฐกิจที่มั่นคงและยั่งยืน พร้อมทั้งกระชับความสัมพันธ์ด้านการค้า การลงทุน และความร่วมมือในหลากหลายด้าน ซึ่งที่ประชุมจะรับรองเอกสารผลลัพธ์สำคัญหลายฉบับ อาทิ ปฏิญญาการประชุมผู้นำบิมสเทค ครั้งที่ 6 ซึ่งแสดงเจตนารมณ์ของสมาชิกในการขับเคลื่อนความร่วมมือเพื่อความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ความเชื่อมโยงในภูมิภาค และความมั่นคง

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังจะรับรองวิสัยทัศน์กรุงเทพฯ 2030 (BIMSTEC Bangkok Vision 2030) ที่มุ่งเน้นความมั่งคั่ง ยั่งยืน และการเปิดกว้างของบิมสเทค โดยมีเป้าหมายในการส่งเสริมการค้า การลงทุน และความร่วมมือด้านการขนส่ง รวมถึงการรับรองกฎระเบียบสำหรับกลไกการดำเนินงานภายใต้กรอบบิมสเทค เพื่อเสริมสร้างการบริหารจัดการและการประสานงานระหว่างประเทศสมาชิกให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

สำหรับภารกิจสำคัญของนายกรัฐมนตรีในวันพฤหัสบดีที่ 3 เมษายน นายกรัฐมนตรีจะเป็นเจ้าภาพจัดงานเลี้ยงอาหารค่ำ ณ ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมแชงกรี-ลา เพื่อต้อนรับผู้นำรัฐสมาชิกหรือผู้แทนทั้ง 6 ประเทศ และในวันศุกร์ที่ 4 เมษายน นายกรัฐมนตรีจะเป็นประธานเปิดการประชุมผู้นำบิมสเทค ซึ่งจะมีการหารือในประเด็นต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการค้าและการลงทุน การเชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐาน และการเสริมสร้างความร่วมมือในด้านความมั่นคงทางอาหาร

“การประชุมครั้งนี้ในฐานะประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ จะเป็นโอกาสสำคัญที่ไทยจะแสดงบทบาทสำคัญในการผลักดันวิสัยทัศน์และนโยบายความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิก เพื่อส่งเสริมความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและสังคมภายในภูมิภาคอ่าวเบงกอล จึงขอเชิญชวนให้ทุกภาคส่วนร่วมกันต้อนรับและเป็นเจ้าภาพการประชุมบิมสเทคครั้งที่ 6 นี้” นายจิรายุกล่าว

ทั้งนี้ การประชุมบิมสเทค (BIMSTEC) หรือ “ความริเริ่มแห่งอ่าวเบงกอลสำหรับความร่วมมือหลากหลายสาขาทางวิชาการและเศรษฐกิจ” (The Bay of Bengal Initiative for Multi-Sectoral Technical and Economic Cooperation) ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2540 โดยมีไทยเป็นผู้ริเริ่ม ร่วมกับประเทศสมาชิก ได้แก่ บังกลาเทศ ภูฏาน อินเดีย เมียนมา เนปาล ศรีลังกา โดยเป็นกรอบที่เชื่อมเอเชียใต้เข้ากับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีเป้าหมายในการเสริมสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจและวิชาการในภูมิภาคอ่าวเบงกอล และเน้นการเชื่อมโยงในหลายมิติ อาทิ การค้า การลงทุน ความมั่นคง การเกษตร ความเชื่อมโยง และความยั่งยืน เป็นต้น นายจิรายุ กล่าว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 มี.ค. 68)

Tags: ,