ตลาดการเงินทั่วโลกจับตาผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะมีการแถลงในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ หรือในช่วงเช้าตรู่ของวันพรุ่งนี้ตามเวลาไทย ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า คณะกรรมการเฟดจะใช้การประชุมในครั้งนี้เพื่อส่งสัญญาณถึงความพร้อมที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค. และคาดว่าเฟดจะพิจารณาใช้นโยบายคุมเข้มด้านการเงินในด้านอื่น ๆ ซึ่งถือเป็นการยุติการดำเนินนโยบายผ่อนคลายทางการเงินที่เฟดเคยนำมาใช้เพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมา
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า นายมาร์ค คาบานา นักวิเคราะห์จากแบงก์ ออฟ อเมริกา คาดการณ์ว่า เฟดจะออกแถลงการณ์ใหม่เพื่อแสดงให้เห็นว่า เฟดมีเป้าหมายที่จะสกัดเงินเฟ้อ และคาดว่าเจ้าหน้าที่เฟดจะระบุว่า คณะกรรมการเฟดมีความพร้อมที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (Federal Funs Rate) อย่างเร็วที่สุดในเดือนมี.ค. แม้การดำเนินการดังกล่าวอาจส่งผลให้ตลาดหุ้นเผชิญกับการปรับฐาน (Correction) ก็ตาม
“เราไม่คาดอยู่แล้วว่า เฟดจะยังใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงิน แต่เมื่อพิจารณาจากตลาดพันธบัตรที่อาจจะมีปฏิกิริยาต่อการร่วงลงของตลาดหุ้น รวมทั้งความตึงเครียดด้านการเมืองระหว่างประเทศ ทำให้เราคาดว่า เฟดจะไม่แสดงท่าทีที่จะใช้นโยบายคุมเข้มด้านการเงินที่รุนแรงเกินไป แต่ถึงกระนั้นก็ตาม เราเชื่อว่าเฟดจะไม่ปฏิเสธกระแสคาดการณ์ที่ว่า อาจจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 4 ครั้งในปีนี้”
นายคาบานากล่าวว่า การที่ตลาดหุ้นร่วงลงอย่างหนัก อันเนื่องมาจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดนั้น อาจทำให้เฟดดำเนินนโยบายยากลำบากขึ้น นอกจากนี้ การที่โควิด-19 ยังคงแพร่ระบาด และการที่รัสเซียขู่ใช้กำลังทหารรุกรานยูเครน อาจจะทำให้เฟดต้องตระหนักถึงความเสี่ยงเหล่านี้ด้วย
ทางด้านนางไดแอน สวองค์ นักวิเคราะห์จากบริษัท Grant Thornton กล่าวว่า “สิ่งที่เฟดจะต้องทำก็คือ การพูดให้ชัดว่าจะรับมือกับความเสี่ยงเหล่านี้อย่างไร เฟดควรพูดว่า ‘เราจะต้องจัดการกับปัญหาเงินเฟ้อ และสิ่งที่เราเห็นในขณะนี้คือนโยบายการเงินอยู่ในลักษณะผ่อนคลายมากจนเกินไป’ ทั้งหมดนี้คือถ้อยแถลงที่เฟดจะสามารถสื่อได้ในเวลานี้”
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 ม.ค. 65)
Tags: ธนาคารกลางสหรัฐ, นโยบายการเงิน, สหรัฐ, เฟด, ไดแอน สวองค์