ผลสำรวจความเห็นของนักวิเคราะห์ซึ่งจัดทำโดยสมาคมเศรษฐศาสตร์ธุรกิจแห่งชาติของสหรัฐ (NABE) ระบุว่า อัตราเงินเฟ้อรายปีของสหรัฐจะยังคงอยู่สูงกว่าเป้าหมายของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ระดับ 2% ในช่วง 3 ปีข้างหน้า เนื่องจากค่าจ้างที่สูงขึ้นและความต้องการสินค้าและบริการปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง
“87% ของนักวิเคราะห์ที่เข้าร่วมการสำรวจระบุถึงปัญหาคอขวดของห่วงโซ่อุปทาน, 76% ระบุถึงความต้องการสินค้าและการบริการที่เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง และ 69% มองว่าการพุ่งขึ้นของค่าจ้างเป็นแรงขับเคลื่อนหลักที่ทำให้ราคาสินค้าปรับตัวสูงขึ้น”
ผลสำรวจของ NABE ระบุ
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ในโพล NABE ได้ปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อทั้งในปี 2564 และ 2565 เมื่อเทียบกับตัวเลขคาดการณ์ในเดือนก.ย. โดยคาดว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ทั่วไป จะพุ่งขึ้น 6% ในไตรมาส 4/2564 เมื่อเทียบเป็นรายปี เพิ่มขึ้นจากตัวเลขคาดการณ์ในเดือนก.ย.ซึ่งอยู่ที่ 5.1% ขณะเดียวกันคาดว่า ดัชนี CPI จะปรับตัวขึ้น 2.8% ภายในสิ้นปี 2565 เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับตัวเลขคาดการณ์ในเดือนก.ย.ที่ระดับ 2.4%
นอกจากนี้ นักวิเคราะห์คาดว่า ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พื้นฐานซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน และเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ จะเพิ่มขึ้น 4.1% ในไตรมาส 4/2564 เมื่อเทียบรายปี ก่อนที่จะชะลอตัวลงมาอยู่ที่ระดับ 2.6% ในไตรมาส 4/2565
ผลสำรวจบ่งชี้ว่า 71% ของนักวิเคราะห์ที่ได้รับการสำรวจคาดการณ์ว่า ดัชนี PCE พื้นฐานจะไม่ปรับตัวลงต่ำกว่าเป้าหมายเงินเฟ้อของเฟดที่ระดับ 2% จนกว่าจะถึงช่วงครึ่งหลังของปี 2566
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 ธ.ค. 64)
Tags: CPI, NABE, ดัชนีราคาผู้บริโภค, ธนาคารกลางสหรัฐ, สหรัฐ, เงินเฟ้อ, เฟด