นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่า ผู้นำระดับสูงของจีนจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในสัปดาห์นี้ แต่คาดว่ามาตรการดังกล่าวจะไม่แข็งแกร่งมากพอที่จะพลิกฟื้นเศรษฐกิจได้ ซึ่งจะสร้างความผิดหวังให้กับตลาดการเงินที่ต้องการให้จีนออกมาตรการเชิงรุกเพื่อรับมือกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจในประเทศ
คณะกรรมการถาวรประจำกรมการเมืองแห่งพรรคคอมมิวนิสต์จีน (โปลิตบูโร) จัดการประชุมในเดือนก.ค. ซึ่งประกอบไปด้วยผู้มีอำนาจสูงสุดในการตัดสินใจของจีน นำโดยประธานาธิบดีสี จิ้นผิง โดยที่ผ่านมานั้นการประชุมโปลิตบูโรจะครอบคลุมถึงนโยบายเศรษฐกิจ แต่ในการประชุมครั้งนี้ เจ้าหน้าที่อาวุโสของโปลิตบูโรไม่ได้ประกาศมาตรการอย่างเฉพาะเจาะจงในการประชุม แม้ว่าภาพรวมของนโยบายต่าง ๆ และภาษาที่ใช้ในแถลงการณ์นั้น สามารถบ่งชี้ถึงแนวทางที่สำคัญว่าจีนจะรับมือกับภาวะซบเซาทางเศรษฐกิจในช่วงหลายเดือนข้างหน้าได้อย่างไร
นักเศรษฐศาสตร์กล่าวว่า การประชุมโปลิตบูโรครั้งนี้อาจจะมีการส่งสัญญาณถึงการสนับสนุนการเติบโตมากขึ้น ซึ่งอาจหมายถึงการใช้จ่ายงบประมาณเพิ่มขึ้น, การปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเล็กน้อย และการผ่อนคลายข้อกำหนดเพิ่มเติมในภาคอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งการสนับสนุนภาคเอกชนอาจเป็นวาระหลักในการประชุมครั้งนี้ หลังจากที่ทางการจีนเคยให้คำมั่นสัญญาไว้แล้ว
นายบรูซ ผาง หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์และหัวหน้าฝ่ายวิจัยของบริษัทโจนส์ แลง ลาซาลล์ กล่าวว่า “การประชุมโปลิตบูโรในครั้งนี้มีแนวโน้มที่จะไม่ใช้ยาแรงในการกระตุ้นเศรษฐกิจ และจะไม่มีการประกาศนโยบายกระตุ้นเชิงรุกมากมายอย่างที่ตลาดคาดหวังไว้”
นักลงทุนได้คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่ารัฐบาลจีนอาจจะไม่ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ซึ่งการคาดการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ตลาดหุ้นจีนอ่อนแรงลงเป็นเวลาหลายวัน โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ดัชนีตลาดหุ้นจีนทำผลงานย่ำแย่ที่สุดในรอบ 4 สัปดาห์
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 ก.ค. 66)
Tags: กระตุ้นเศรษฐกิจ, จีน, เศรษฐกิจจีน