นักวิจัยจุฬาฯพัฒนาชุดตรวจฮอร์โมนโปรเจสเทอโรนเพื่อตรวจการตั้งท้องของสุกร โดยเกษตรกรสามารถตรวจเองได้ ช่วยวางแผนการบริหารจัดการฟาร์มให้มีประสิทธิภาพ เผยล่าสุดฟาร์มสุกรในกว่า 10 ประเทศนำไปทดลองใช้แล้ว
การสังเกตการตั้งท้องของสุกรเป็นสิ่งที่ทำได้ยาก และปัญหาหลักคือสุกรเพศเมียบางตัวไม่แสดงอาการ ทำให้มีโอกาสวินิจฉัยการตั้งท้องผิดพลาด จำเป็นต้องใช้วิทยาศาสตร์เข้ามาช่วย จากผลงานของทีมวิจัย รศ.ดร.กิตตินันท์ โกมลภิส ร่วมกับ ทีมวิจัยของ ศ.ดร.นสพ.เผด็จ ธรรมรักษ์ แสดงให้เห็นผลเบื้องต้นของการใช้แถบทดสอบที่เตรียมขึ้นในระดับห้องปฏิบัติการในการช่วยแก้ไขปัญหาได้” ศาสตราจารย์ ดร.ศิริรัตน์ เร่งพิพัฒน์ ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาชุดตรวจวินิจฉัยตามมาตรฐานสากล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ใช้แนวคิดนี้เป็นจุดเริ่มต้นการพัฒนานวัตกรรมแถบทดสอบที่ใช้ตรวจหาโปรเจสเทอโรนในเลือดของสุกร (Progesterone Test Kit)
“สุกรเป็นเนื้อสัตว์ที่เป็นที่นิยมบริโภค เป็นหนึ่งในสัตว์เศรษฐกิจสำคัญของประเทศ สร้างรายได้ให้เกษตรกร การบริหารจัดการฟาร์มให้มีประสิทธิภาพจึงเป็นเรื่องสำคัญสำหรับเศรษฐกิจและการผลิตอาหารสำหรับประชาชน การตรวจสอบความพร้อมในการตั้งท้องของสุกร หรือการตั้งท้องของสุกรจึงเป็นขั้นตอนสำคัญในการบริหารจัดการธุรกิจเลี้ยงสุกรและมีผลต่อการวางแผนการจัดการซื้อขายสุกรในอนาคต” ศ.ดร.ศิริรัตน์ กล่าวถึงความสำคัญในการคิดค้นนวัตกรรมทดสอบการตั้งท้องในสุกร
“ชุดตรวจนี้เกษตรกรสามารถใช้ทดสอบการตั้งท้องของสุกรได้ด้วยตัวเอง พกพาและใช้งานสะดวก แสดงผลไว ไม่ต้องใช้เครื่องมือวิเคราะห์ที่ซับซ้อน และราคาไม่แพง” ศ.ดร.ศิริรัตน์ สรุปจุดเด่นของชุดทดสอบการตั้งท้องในสุกร
“ชุดทดสอบนี้จะตรวจหาฮอร์โมนโปรเจสเทอโรนในสุกร โดยการเอาตัวอย่างเลือดจากสุกร อาจจะเจาะบริเวณใบหูของสุกรเพื่อเก็บเลือดประมาณ 3 หยด หรือจะใช้ซีรั่มที่เป็นน้ำใสๆ ด้านบนเวลาตั้งเลือดทิ้งไว้ แล้วเอาสารคัดหลั่งดังกล่าวมาหยดลงบนแถบทดสอบ (Strip Test) ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที ทราบผลทดสอบ คล้ายกับการตรวจโควิด-19 ด้วย ATK”
ศ.ดร.ศิริรัตน์ เผยว่าจากการนำชุดทดสอบหาฮอร์โมนโปรเจสเทอโรนในสุกร ไปใช้ตรวจจริงกับแม่สุกรที่ผ่านการผสมพันธุ์ ทั้งในฟาร์มสุกรในเมืองไทย และฟาร์มของกลุ่มผู้เลี้ยงสุกรในประเทศสเปน พบว่าชุดตรวจมีความแม่นยำมากกว่า 96 เปอร์เซ็นต์ ใกล้เคียงกับวิธีการทดสอบแบบ ELISA
ปัจจุบัน หลายบริษัทชั้นนำในธุรกิจฟาร์มสุกรยังได้นำชุดทดสอบนี้ไปใช้ในต่างประเทศกว่า 10 ประเทศ ได้แก่ อเมริกา ฝรั่งเศส เบลเยี่ยม สเปน ยูเครน ฟิลิปปินส์ อินโดนิเชีย เวียดนาม เกาหลี และจีน
“ในอนาคต ทีมวิจัยอยากจะขยายการตรวจทดสอบลักษณะนี้ไปที่สัตว์เคี้ยวเอื้องขนาดเล็ก เช่น แกะ และ แพะ หรือแม้แต่สุนัขและแมว” ศ.ดร.ศิริรัตน์ กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 พ.ย. 66)
Tags: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, นักวิจัย, สุกร, เกษตรกร