นักลงทุนในตลาดการเงินมีความวิตกกังวลว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรญี่ปุ่นจะปรับตัวขึ้นอีก และกังวลว่าตลาดพันธบัตรญี่ปุ่นอาจเผชิญกับความผันผวน เนื่องจากมีความเป็นไปได้ว่าธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) อาจจะปรับลดการถือครองพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นลงจำนวนมาก
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า BOJ ซื้อพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นเพียง 4.5 ล้านล้านเยน (2.9 หมื่นล้านดอลลาร์) ในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นจำนวนที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2556 ขณะที่ผลสำรวจเมื่อไม่นานมานี้ระบุว่า นักเศรษฐศาสตร์กว่าครึ่งหนึ่งคาดการณ์ว่า BOJ จะปรับลดการซื้อพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นในการประชุมครั้งต่อไปซึ่งจะมีขึ้นในวันศุกร์ที่ 14 มิ.ย.นี้ และมีนักเศรษฐศาสตร์จำนวนมากขึ้นที่คาดการณ์ว่า BOJ อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ค.
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นอายุ 10 ปีมีความผันผวนอย่างมาก โดยพุ่งแตะระดับสูงถึง 1.1% ในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2554 ก่อนที่จะปรับตัวลดลงในเวลาต่อมา
โชกิ โอโมริ หัวหน้านักกลยุทธ์ด้านการตลาดจากบริษัทหลักทรัพย์มิซูโฮกล่าวว่า “เนื่องจากความผันผวนของตลาด เราจึงคาดว่า BOJ อาจจะไม่ส่งสัญญาณที่บ่งชี้ถึงการดำเนินนโยบายคุมเข้าด้านการเงินเชิงรุกในการประชุมครั้งนี้ อย่างไรก็ดี นักลงทุนยังคงคาดการณ์ว่า BOJ จะเดินหน้าปรับลดการซื้อพันธบัตรในอนาคต ซึ่งจะสร้างแรงกดดันต่ออัตราผลตอบแทนพันธบัตร”
กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) แนะนำให้ BOJ ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยป็นค่อยไป หลังจากที่ BOJ ได้ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเป็นครั้งแรกในรอบ 17 ปีในการประชุมเมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา พร้อมกับแนะนำว่า BOJ ควรใช้กลยุทธ์การสื่อสารกับตลาดอย่างชัดเจนและมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสื่อสารเกี่ยวกับผลกระทบที่เกิดจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 มิ.ย. 67)
Tags: BOJ, การเงิน, ธนาคารกลางญี่ปุ่น, นักลงทุน, พันธบัตรรัฐบาล