นายอัลลัน ซีแมน นักธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์และที่ปรึกษารัฐบาลฮ่องกงเผยว่า ชื่อเสียงของฮ่องกงในฐานะศูนย์กลางการเงินระดับโลกเสียหายไปมาก เนื่องจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงสร้างความสับสนในการสื่อสารเรื่องแผนการป้องกันโควิด-19
การแสดงความเห็นในครั้งนี้ของนายซีแมนผิดไปจากปกติ เนื่องจากที่ผ่านมานั้นนายซีแมนสนับสนุนรัฐบาลจีน ท่ามกลางความกังวลว่าจะมีการล็อกดาวน์ ขณะที่แผนการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ให้ประชาชน 7.4 ล้านคนในฮ่องกงยังไม่ชัดเจน ทำให้ชาวฮ่องกงเดินทางออกไปเป็นจำนวนมากเมื่อเดือนที่ผ่านมา
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า รัฐบาลฮ่องกงประกาศวันนี้ (2 มี.ค.) ว่า กำลังวางแผนและปรับเกณฑ์การตรวจหาเชื้อในวงกว้างที่บังคับใช้อยู่ โดยจะมีการประกาศรายละเอียดเมื่อมีการยืนยันแผนการชัดเจนแล้ว
เมื่อวานนี้ นางแคร์รี ลัม ผู้บริหารเขตปกครองพิเศษฮ่องกงเรียกร้องให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก พร้อมทั้งระบุว่ารัฐบาลยังไม่ได้พิจารณาใช้มาตรการล็อกดาวน์ รวมถึงการบังคับตรวจหาเชื้อ ส่วนเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา นางโซเฟีย ชาน รัฐมนตรีกระทรวงอาหารและสุขภาพ (SFH) ระบุว่า ยังไม่ได้พิจารณาที่จะตัดมาตรการล็อกดาวน์ออกไป ทำให้ประชาชนแห่กักตุนสินค้า เวชภัณฑ์ทางการแพทย์ และแห่ทำธุรกรรมที่ธนาคาร
นายซีแมนให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า “ประชาชนจำนวนมากหมดศรัทธากับนโยบายโควิด-19 ที่เข้มงวดซึ่งสร้างความยากลำบากในการดำเนินชีวิต สถานการณ์ตอนนี้มีความไม่แน่นอนสูงมาก รัฐบาลจำเป็นต้องสื่อสารให้ตรงกัน ไม่อย่างนั้นประชาชนจะสับสนมาก การที่เจ้าหน้าที่ต่างคนต่างพูดจะทำให้ผู้คนตื่นตระหนก”
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (02 มี.ค. 65)
Tags: กักตุนสินค้า, ล็อกดาวน์, อสังหาริมทรัพย์, ฮ่องกง, โควิด-19