กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดยอดจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ ไตรมาสแรกของปี 2567 มีจำนวนทั้งสิ้น 25,003 ราย ลดลง 1,179 ราย หรือ 4.50% เมื่อเปรียบเทียบไตรมาสแรกของปี 2566 คิดเป็นทุนจดทะเบียน 67,940 ล้านบาท ลดลง 271,645 ล้านบาท หรือ 79.99% เมื่อเทียบไตรมาสแรกของปี 2566 (ไตรมาสแรกปี 2566 จัดตั้งธุรกิจ 26,182 ราย ทุนจดทะเบียน 339,595 ล้านบาท)
ยประเภทธุรกิจที่มีการจดทะเบียนจัดตั้งสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่
1) ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป 1,957 ราย ทุน 4,193 ล้านบาท
2) ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 1,907 ราย ทุน 8,093 ล้านบาท
3) ธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร 1,093 ราย ทุน 2,302 ล้านบาท
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า จำนวนการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ในไตรมาส 1/2567 ยังถือว่าเป็นตัวเลขที่สูง เมื่อเปรียบเทียบกับรอบ 10 ปีที่ผ่านมา (ปี 57 – 66) โดยเป็นรองเพียงยอดจดทะเบียนในไตรมาส 1/2566 เท่านั้น (ไตรมาส 1/2566 จดทะเบียน 26,182 ราย)
ส่วนการเลิกประกอบธุรกิจ ในไตรมาส 1/2567 มีจำนวน 2,809 ราย ลดลง 459 รายจากไตรมาส 1/2566 หรือลดลง 14.05%(ไตรมาส 1/2566 ธุรกิจเลิกประกอบธุรกิจ จำนวน 3,268 ราย)
ธุรกิจที่มีการจดทะเบียนเลิกกิจการสะสมสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป 296 ราย ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 154 ราย และ ธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร 107 ราย คิดเป็น 10.54% , 5.48% และ 3.81% ของการจดทะเบียนเลิกประกอบธุรกิจรวมในไตรมาสที่ 1/2567
หากพิจารณาเฉพาะเดือนมี.ค.67 พบว่า มีการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ 7,733 ราย มูลค่าทุนจดทะเบียน 22,146 ล้านบาท เมื่อเทียบกับเดือนมี.ค.66 จำนวนลดลง 1,446 ราย หรือ ลดลง 15.75% และทุนจดทะเบียนลดลง 277,462 ล้านบาท หรือ ลดลง 92.61% เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนมี.ค.66 (มี.ค.66 จดทะเบียนจัดตั้ง 9,179 ราย ทุนจดทะเบียน 299,608 ล้านบาท)
ส่วนการจดทะเบียนเลิกประกอบธุรกิจ มีจำนวน 911 ราย ลดลง 191 รายจากเดือนมี.ค.66 หรือลดลง 17.33% (มี.ค.66 เลิกประกอบธุรกิจ 1,102 ราย) โดยธุรกิจที่เลิกกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป 104 ราย ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 54 ราย และ ธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร 36 ราย คิดเป็น 11.42% , 5.93% และ 3.95% ของการจดทะเบียนเลิกประกอบธุรกิจรวมทั้งประเทศในเดือนมี.ค.67 ตามลำดับ
ส่งผลให้ ณ วันที่ 31 มี.ค.67 ยังมีธุรกิจที่ดำเนินกิจการอยู่ทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น 1,902,239 ราย คิดเป็นทุนจดทะเบียน 29.83 ล้านล้านบาท
นางอรมน กล่าวว่า ไตรมาสแรกของปี 67 เศรษฐกิจไทยส่งสัญญาณฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง และเป็นช่วงเวลาที่ต้องจับตามองเป็นพิเศษ ด้วยเป็นปีที่เริ่มเข้าสู่การดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจตามสภาวะปกติ หลังจากการฟื้นตัวจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยธุรกิจที่มีการเติบโตที่น่าสนใจในไตรมาส 1/2567 ได้แก่
1. ธุรกิจด้านความบันเทิง เช่น กิจกรรมดนตรี งานศิลปะ มีการเติบโตของการจัดตั้ง อยู่ที่ 64%
2. ธุรกิจขายปลีกเฟอร์นิเจอร์ มีการเติบโต 57.78%
3. ธุรกิจขายส่งชิ้นส่วนและอุปกรณ์เสริมของยานยนต์ มีการเติบโต 47.62%
4. ธุรกิจสปา มีอัตราการเติบโต 35.59%
5. ธุรกิจโรงแรม รีสอร์ทและห้องชุด โดยมีอัตราการเติบโต 37.75%
พร้อมคาดการณ์ว่า การจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคลครึ่งปีแรก 2567 มีแนวโน้มทิศทางบวก โดยคาดการณ์จำนวนการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจในครึ่งปีแรกของปี 2567 อยู่ที่ 46,000 – 50,000 ราย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (02 เม.ย. 67)
Tags: กรมพัฒนาธุรกิจการค้า, จดทะเบียนธุรกิจ, อรมน ทรัพย์ทวีธรรม, เศรษฐกิจไทย