“ธรรมนัส” ยันโหวตนายกฯ เป็นมติพรรค ส่วนปธ.สภาฯ ให้เป็นเอกสิทธิ ส.ส.

ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา เขต 1 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวภายหลังเดินทางเข้ารับหนังสือรับรอง ส.ส.จากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ของตัวเอง และรับมอบหนังสือรับรองฯ แทน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เนื่องจากติดภารกิจประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในช่วงเช้า แต่ช่วงบ่าย พล.อ.ประวิตร จะเข้าไปรายงานตัวที่สภาผู้แทนราษฎรด้วยตัวเอง

ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ช่วงก่อนหน้านี้ ที่ กกต.ยังไม่ประกาศรับรอง ส.ส.อย่างเป็นทางการนั้น พล.อ.ประวิตร ตลอดจนคณะกรรมการบริหารพรรค ได้มอบหมายให้ตนประสานงานกับ ส.ส.ของพรรคทุกคนว่า ให้อยู่เงียบๆ นิ่งๆ เพราะถือเป็นมารยาททางการเมือง ในเมื่อ กกต.ยังไม่รับรองผล ก็ไม่ควรมีการเคลื่อนไหวใดๆ ภายในพรรค

ส่วนที่มองว่าอาจเกิดการพลิกขั้ว หากพรรคที่ได้เสียงข้างมากไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จนั้น ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เนื่องจากอำนาจการตัดสินใจขึ้นอยู่กับกรรมการบริหารพรรค ซึ่งหัวหน้าพรรคฯ ได้มอบนโยบายไว้ว่าโดยมารยาททางการเมืองในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา ที่เรานิ่งเพราะต้องการให้พรรคที่ได้คะแนนเสียงมากสุดเป็นผู้จัดตั้งรัฐบาล ซึ่งหลังจากนี้ พรรคเราก็จะอยู่นิ่งๆ เช่นกัน จนกว่าจะมีการเปิดสภาฯ

ทั้งนี้ หากการโหวตนายกรัฐมนตรีของพรรคก้าวไกลไม่สำเร็จ เนื่องจากติดล็อกที่ ส.ว.นั้น โอกาสที่พรรคพลังประชารัฐ จะจับมือกับพรรคเพื่อไทย เป็นไปได้หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า จากกระแสข่าวเกิดดีลลับในช่วงที่ผ่านมา ขอยืนยันว่า พรรคพลังประชารัฐไม่เคยมีเรื่องพวกนี้ การกำหนดทิศทางของพรรคในอนาคต ขึ้นอยู่กับการประชุมกรรมการบริหารพรรค และหัวหน้าพรรค

“การเมืองเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของหลายฝ่าย หลายทิศทาง แต่ข้อเท็จจริงในฐานะที่ผมใกล้ชิดกับหัวหน้าพรรค และคุยกันทุกวัน รับรองว่าไม่มีดีลอะไรทั้งนั้น” ร.อ.ธรรมนัส ระบุ

ส่วนการโหวตเลือกนายกฯ พรรคพลังประชารัฐ จะให้เป็นเอกสิทธิของ ส.ส.หรือไม่นั้น ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เบื้องต้นจะมีการประชุม ส.ส.พรรคในเร็วๆ นี้ ถึงเรื่องทิศทางดังกล่าว เชื่อว่าคงต้องเป็นมติพรรคมากกว่า เมื่อถามย้ำว่า พรรคอันดับหนึ่ง ควรได้เป็นนายกฯ หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า คิดว่ามี 2 ประเด็น 1. การโหวตประธานสภาฯ เนื่องจากการเลือกประธานสภาฯ เป็นเรื่องของส.ส. ก็เป็นสิทธิของ ส.ส.ที่จะโหวตใครเป็นประธานฯ ส่วน 2 เรื่องนายกฯ เนื่องจากเป็นการโหวตของ 2 สภา ตามรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ต้องเคารพว่ากำหนดว่าอย่างไร แต่ทิศทางว่าจะเลือกใครนั้น ทางหัวหน้าพรรคให้นโยบายอยู่แล้วว่า ควรจะให้พรรคที่ไดรับการยอมรับจากประชาชน เสียงข้างมากในการรวบรวมจัดตั้งรัฐบาล และโหวตนายกฯ ต่อไป

สำหรับการเสนอรายชื่อบุคคล เพื่อรับการโหวตเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎรนั้น ร.อ.ธรรมนัส กล่าว่า ทุกพรรคมีโอกาสเสนอชื่อได้หมด และไม่จำเป็นต้องเป็นพรรคที่มีเสียงข้างมาก

“ยุคที่คุณชวน หลีกภัย เป็นประธานสภาฯ พรรคพลังประชารัฐก็เป็นคนเสนอ ส่วนรอบนี้ ยังไม่ได้มีการคุยกัน ส่วนที่ปรากฏชื่อของนายสุชาติ ตันเจริญ จากพรรคเพื่อไทย เข้ารับการโหวตนั้น ส่วนตัวก็ได้ยินมาพร้อมกับสื่อ แต่ยังไม่ได้พูดคุยกัน ซึ่งทุกอย่างเป็นไปได้หมด” ร.อ.ธรรมนัส ระบุ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 มิ.ย. 66)

Tags: , , , , ,