ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และสมาคมธนาคารไทย ชี้แจงว่า ตามที่ปรากฏข่าว พบลูกค้าผู้ถือบัตรเครดิตและบัตรเดบิตจำนวนมาก ประสบปัญหาการทำรายการชำระเงินโดยที่ไม่ได้ทำธุรกรรมด้วยตนเอง เบื้องต้นพบว่า มิได้เกิดจากการรั่วไหลของข้อมูลจากธนาคาร แต่เป็นรายการที่เกิดจากการทำธุรกรรมชำระค่าสินค้าและบริการกับร้านค้าออนไลน์ที่จดทะเบียนในต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่ และไม่ใช่แอปดูดเงินตามที่ปรากฏเป็นข่าว
ขณะนี้ธนาคารเจ้าของบัตร ได้ดำเนินการระงับการใช้บัตรของลูกค้าที่มีรายการผิดปกติ และติดต่อลูกค้า รวมทั้งอยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบร้านค้าที่มีธุรกรรมที่ผิดปกติเหล่านี้
นอกจากนี้ ลูกค้าที่ตรวจสอบพบความผิดปกติของรายการธุรกรรมด้วยตนเอง สามารถติดต่อคอลเซ็นเตอร์หรือสาขาของธนาคารผู้ออกบัตร เพื่อแจ้งตรวจสอบและยืนยันการทำธุรกรรมในทันที โดยธนาคารจะดูแลแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น และเร่งคืนเงินให้กับลูกค้าที่ได้รับความเสียหายตามขั้นตอนของธนาคารโดยเร็วต่อไป
ธปท. และสมาคมธนาคารไทย ให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับความปลอดภัยในการทำธุรกรรมทางการเงิน และการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า โดยธนาคารพาณิชย์มีระบบการรักษาความมั่นคงปลอดภัย และมีการตรวจสอบการทำธุรกรรมที่ผิดปกติอย่างต่อเนื่อง เมื่อพบรายการที่ผิดปกติ ธนาคารจะแจ้งลูกค้าเพื่อตรวจสอบและยืนยันรายการธุรกรรม และพร้อมจะดูแลลูกค้าด้วยความรับผิดชอบเสมอ
ด้านนายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้รับทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว และได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าไปตรวจสอบเพื่อเร่งแก้ไขปัญหากรณีประชาชนร้องเรียนว่า ถูกหักเงินจากบัญชีธนาคาร บัญชีบัตรเครดิต หรือบัญชีบัตรเดบิต อย่างผิดปกติเป็นจำนวนมาก หรือลักษณะผูกบัญชีไว้กับวิลเลจหรือสโตร์ออนไลน์ โดยจำนวนเงินที่หักไม่สูง แต่มีจำนวนหลายรายการติดๆ กัน
โดยนายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย แจ้งว่า ทีมงานของสมาคมธนาคารไทย กำลังร่วมประชุมกับทีม Fraud (ทีมตรวจสอบการทุจริตฉ้อโกงเกี่ยวกับระบบธนาคาร) และชมรมผู้บริหารเทคโนโลยีสารสนเทศระดับสูง (Chief Information Officer :CIO) ของธนาคารพาณิชย์ ถึงเรื่องดังกล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 ต.ค. 64)
Tags: lifestyle, ชำระเงินออนไลน์, ธนกร วังบุญคงชนะ, ธนาคารแห่งประเทศไทย, ธปท., บัตรเครดิต, บัตรเดบิต, ผยง ศรีวณิช, สมาคมธนาคารไทย, สินค้าออนไลน์