ธปท. ปรับเกณฑ์ประเมิน D-SIBs รองรับธุรกรรมดิจิทัลเพิ่ม เริ่มใช้ปี 67

ตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ยกระดับการกำกับดูแลธนาคารพาณิชย์ ที่มีความสำคัญต่อระบบในประเทศ (Domestic systemically important banks: D-SIBs) ให้มีความมั่นคง และมีความสามารถในการรองรับความเสียหายจากการดำเนินการได้มากขึ้นมาตั้งแต่ปี 2560 โดยได้กำหนดแนวทางการระบุและการกำกับดูแลธนาคารพาณิชย์ที่มีความสำคัญต่อระบบในประเทศ โดยมีกรอบการชี้วัด 4 ด้าน คือ ขนาด ความเชื่อมโยง การทดแทนกันได้และโครงสร้างพื้นฐานของระบบสถาบันการเงิน และความซับซ้อน และกำหนดให้มีการทบทวนแนวทางดังกล่าวเป็นประจำทุก 3 ปี นั้น

ล่าสุด ธปท. ได้ปรับปรุงแนวทางการระบุธนาคารพาณิชย์ที่มีความสำคัญต่อระบบในประเทศ โดยเพิ่มปัจจัยพิจารณาภายใต้กรอบการชี้วัดเดิม เช่น

(1) ด้านความเชื่อมโยงทางอ้อม ระหว่างธนาคารพาณิชย์ผ่านการให้สินเชื่อ หรือลงทุนกับกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีความสำคัญต่อระบบการเงิน (systemically important corporation) รายเดียวกัน

(2) ด้านการทดแทนกันได้ โดยพิจารณาถึงการเป็นแหล่งเงินทุนสำคัญให้กับธุรกิจ SMEs ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจไทย และระดับความสำคัญในการให้บริการทางการเงินพื้นฐานผ่าน mobile banking ซึ่งหากบริการดังกล่าวหยุดชะงัก จะส่งผลกระทบต่อผู้ใช้บริการในวงกว้างด้วย

ทั้งนี้ การปรับแนวทางการประเมินครั้งนี้ เพื่อให้สามารถสะท้อนถึงความสำคัญต่อระบบได้อย่างเหมาะสม โดยคำนึงถึงการเปลี่ยนแปลงของภูมิทัศน์ทางการเงิน (financial landscape) ในระยะข้างหน้า และความสำคัญของการทำธุรกรรมดิจิทัลที่มีแนวโน้มสูงขึ้น รวมทั้งความสำคัญเชิงระบบในมิติอื่น ๆ เพิ่มเติม

โดยแนวทางการประเมินใหม่ จะเริ่มใช้สำหรับการประเมิน D-SIBs ประจำปี 2567 เป็นต้นไป

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (29 ก.พ. 67)

Tags: , ,