รายงานข่าวจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท. ได้ประกาศรายชื่อ 14 สถาบันการเงินที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นคู่
ค้าสำหรับธุรกรรมซื้อขายตราสารหนี้ด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Outright) ดังนี้
- ธนาคารกรุงเทพ (BBL)
- ธนาคารกรุงไทย (KTB)
- ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY)
- ธนาคารกสิกรไทย (KBANK)
- ธนาคารซิตี้แบงก์ เอ็น.เอ. สาขากรุงเทพฯ
- ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย (CIMBT)
- ธนาคารดอยช์แบงก์ เอจี สาขากรุงเทพฯ
- ธนาคารทหารไทยธนชาต (TTB)
- ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB)
- ธนาคารบีเอ็นพี พารีบาส์ สาขากรุงเทพฯ
- ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย)
- ธนาคารแห่งอเมริกา เนชั่นแนล แอสโซซิเอชั่น สาขากรุงเทพฯ
- ธนาคารฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้แบงกิ้งคอร์ปอเรชั่น จำกัด สาขากรุงเทพฯ
- บริษัทหลักทรัพย์เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
นอกจากนี้ ธปท. ได้ประกาศรายชื่อสถาบันการเงินที่ทำหน้าที่เป็น Primary Dealers สำหรับธุรกรรมซื้อขายตราสารหนี้โดยมีสัญญาว่าจะขายคืนหรือซื้อคืนและซื้อตราสารหนี้ธนาคารแห่งประเทศไทย (PDs Bilateral Repo) ดังนี้
- ธนาคารกรุงเทพ (BBL)
- ธนาคารกรุงไทย (KTB)
- ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY)
- ธนาคารกสิกรไทย (KBANK)
- ธนาคารทหารไทยธนชาต (TTB)
- ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB)
- ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.)
- ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย)
- ธนาคารออมสิน
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2565 เป็นต้นไป ดังนี้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 เม.ย. 65)
Tags: e-Outright, ธนาคาร, ธนาคารแห่งประเทศไทย, ธปท., สถาบันการเงิน