ที่ปรึกษา ศบค.รับหนีโอมิครอนยากหลังพบติดเชื้อ 8 รายวอนยึดมาตรการเข้ม

นพ.อุดม คชินทร ที่ปรึกษาคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) กล่าวก่อนการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ว่า ประเทศไทยคงหนีเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนไม่ได้ เพราะขณะนี้พบผู้ติดเชื้อเพิ่มเป็น 8 รายแล้ว และกำลังจะมีเข้ามาอีก ขณะที่ในต่างประเทศ ยกตัวอย่างประเทศเกาหลี ผู้ที่ติดเชื้อโอมิครอนไม่ได้เดินทางไปต่างประเทศ แต่เกิดจากภายในเพราะมีการกลายพันธุ์ของเชื้อ อีกทั้งขณะนี้โอมิครอนแพร่ไปกว่า 60 ประเทศทั่วโลกแล้ว และยิ่งแพร่เชื้อเร็วกว่าเดลตา หรืออย่างปีที่ผ่านมาการแพร่เชื้อของอัลฟา 80-90% ใช้เวลาไม่ถึง 6 เดือนกลายพันธุ์เป็นเดลตา

นอกจากนี้ ยังมีความเป็นไปได้ที่อาจมีการกลายพันธุ์ระหว่างเชื้อเดลตากับโอมิครอน จนเกิดเป็นลูกผสมหรือไฮบริด และอาจทำให้เชื้อรุนแรงขึ้น แต่การที่จะกลายพันธุ์ได้จะต้องมีการแพร่เชื้อออกไป ยิ่งแพร่เชื้อมากก็จะยิ่งมีโอกาสกลายพันธุ์ได้มาก ดังนั้น หากตัดขั้นตอนไม่ให้มีการแพร่กระจายได้ โอกาสกลายพันธุ์ก็จะลดลง ซึ่งเป็นหลักการทางการแพทย์ จึงจำเป็นต้องช่วยกันทำตามมาตรการด้านสาธารณสุข เพื่อช่วยป้องกันไม่ให้กลายพันธุ์

แม้องค์การอนามัยโลก (WHO) และศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐอเมริกา (CDC) ยืนยันว่าผู้ติดเชื้อโอมิครอนอาการจะไม่รุนแรง แต่ก็น่าเป็นห่วงเพราะแพร่เชื้อได้เร็วกว่าเดลตา 2-5 เท่า แต่หากดูข้อมูลบ้านเราในขณะนี้ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิดลดลงมาเรื่อยๆ ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่าพอใจ ถือว่าประชาชนช่วยกันได้ดี

แต่อยากให้ดูข้อแตกต่างระหว่างบ้านเรากับยุโรป วัคซีนของยุโรปฉีดได้สูงถึง 80-90% แต่ก็ยังพบการติดเชื้อวันละ 3 หมื่นราย ซึ่งสิ่งที่ต่างจากเราคือ ทางยุโรปไม่ได้เคร่งครัดเรื่องมาตรการเรื่องการใส่หน้ากากอนามัย ซึ่งต่างจากคนไทย 99%ใส่หน้ากากอนามัย จึงอยากเตือนว่าอย่าชะล่าใจ เพราะวัคซีนไม่ได้ป้องกัน 100% แต่เป็นพื้นฐานในการป้องกัน

“ถ้าเราไม่ระวังโอมิครอนจะมาแทนเดลตาแน่นอน สิ่งที่ป้องกันได้จริงคือวัคซีน และพฤติกรรมของตัวเราเอง ใส่ mask ล้างมือบ่อยๆ ยิ่งใกล้เทศกาลปีใหม่เป็นเรื่องที่น่าห่วง อยากให้ไปเที่ยว มีการจัดงาน แต่ก็ต้องระวัง”

นพ.อุดม กล่าว

นพ.อุดม กล่าวว่า ต้องให้เครดิตวัคซีนเพราะมีการฉีดกันมาก และจากการดูตัวเลขของกระทรวงสาธารณสุขเมื่อเช้าวันนี้ เข็มที่ 1 ขาดอีก 7 หมื่นคน จะครบ 100 ล้านโดส ส่วนเข็มที่ 2 ขาดอีก 2.3 ล้านคน จึงอยากให้ช่วยประชาสัมพันธ์คนที่ยังลังเลไม่ไปฉีดวัคซีน ขอให้ไปฉีดวัคซีนป้องกันการเอาเชื้อไปติดผู้อื่น โดยเฉพาะผู้สูงอายุอาจเกิดอัตราการตายสูง

อย่างไรก็ตามแม้การฉีดวัคซีนไม่ได้เป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้จะส่งให้ครบ 100 ล้านโดสภายในเดือนพ.ย. เพราะยังมีคนยังลังเล แต่ขอให้เป็นไปตามเป้าภายในเดือน ธ.ค. 70% ให้ครบ 2 เข็ม จึงอยากเรียกร้องให้มาฉีดเพราะจะช่วยปกป้องคนรอบข้างและประเทศ เพื่อให้เศรษฐกิจเดินได้ รวมทั้งป้องกันโอมิครอน

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (13 ธ.ค. 64)

Tags: , , , , ,