ทำเนียบขาวออกมาเปิดเผยเมื่อวานนี้ (26 ม.ค.) ว่า ข้อตกลงหยุดยิงระหว่างเลบานอนกับอิสราเอลจะยังมีผลต่อไปจนถึง 18 กุมภาพันธ์นี้ แม้ก่อนหน้านี้เมื่อวันศุกร์ (24 ม.ค.) อิสราเอลได้ประกาศว่าจะยังไม่ถอนกำลังออกจากพื้นที่ตอนใต้ตามกำหนดเส้นตายเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงหยุดยิงที่สหรัฐฯ เป็นคนกลางไกล่เกลี่ยเพื่อยุติการสู้รบกับกลุ่มฮิซบอลเลาะห์
แถลงการณ์จากทำเนียบขาวระบุว่า “ข้อตกลงระหว่างเลบานอนกับอิสราเอลภายใต้การดูแลของสหรัฐฯ จะมีผลไปจนถึง 18 กุมภาพันธ์ 2568”
นอกจากนี้ ทำเนียบขาวยังเผยว่า รัฐบาลทั้งสามประเทศจะเริ่มเจรจาเรื่อง “การปล่อยตัวนักโทษชาวเลบานอนที่ถูกจับกุมหลังเหตุการณ์ 7 ตุลาคม 2566”
ล่าสุด ทางการเลบานอนรายงานว่า กองกำลังอิสราเอลได้สังหารประชาชน 22 ราย ในพื้นที่ตอนใต้ของเลบานอนเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นวันครบกำหนดถอนทหาร ขณะที่ชาวบ้านนับพันพยายามฝ่าคำสั่งห้ามของกองทัพอิสราเอลเพื่อกลับเข้าบ้านเรือนของตน
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า กองทัพเลบานอนที่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ทหารของตนเสียชีวิต 1 นายจากการโจมตีของอิสราเอล พร้อมกล่าวหาว่าอิสราเอลจงใจถ่วงเวลาไม่ยอมถอนกำลัง
การปะทะระหว่างฮิซบอลเลาะห์กับอิสราเอลเกิดขึ้นควบคู่ไปกับสงครามในฉนวนกาซา และพุ่งขึ้นถึงจุดสูงสุดเมื่ออิสราเอลเปิดฉากโจมตีครั้งใหญ่ ส่งผลให้ชาวเลบานอนกว่าล้านคนต้องอพยพ และทำให้กลุ่มที่อิหร่านให้การสนับสนุนนี้อ่อนกำลังลงอย่างหนัก
ด้านอิสราเอลยังไม่ได้ระบุระยะเวลาที่จะให้กองกำลังของตนอยู่ในพื้นที่ตอนใต้ โดยอ้างว่ากำลังดำเนินการยึดอาวุธและทำลายโครงสร้างพื้นฐานของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 ม.ค. 68)
Tags: ทำเนียบขาว, สหรัฐ, อิสราเอล, เลบานอน