ทำเนียบขาวออกแถลงการณ์ยืนยันรายงานข่าวที่ว่า รัฐบาลสหรัฐอาจกำหนดให้ชาวต่างชาติทุกคนที่จะเดินทางเข้าสหรัฐต้องได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ครบโดส ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการกลับมาอนุญาตให้ชาวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศอีกครั้ง อย่างไรก็ดี รัฐบาลสหรัฐยังไม่ได้ตัดสินใจในเรื่องนี้ และจะยังไม่ยกเลิกข้อจำกัดด้านการเดินทางในขณะนี้
นายเจฟฟ์ เซนท์ส เจ้าหน้าที่ฝ่ายประสานงานด้านการรับมือโควิด-19 ประจำทำเนียบขาวยืนยันว่า คณะทำงานของทำเนียบขาวกำลังพิจารณาแผนการที่จะออกข้อกำหนดดังกล่าว โดยเขากล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า “เราจะเตรียมตัวให้พร้อมเมื่อถึงเวลาอันเหมาะสมที่เราจะกลับมาเปิดประเทศอีกครั้ง”
นอกจากนี้ ทำเนียบขาวยังย้ำว่า ขณะนี้สหรัฐยังไม่พร้อมที่จะยกเลิกข้อจำกัดด้านการเดินทางในทันที เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ยังคงเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะผู้ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตา
คำยืนยันดังกล่าวมีขึ้นหลังจากสื่อหลายแห่งซึ่งรวมถึงสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวรายหนึ่งที่ว่า คณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน กำลังปรับปรุงแผนที่จะกำหนดให้ชาวต่างชาติทุกคนที่จะเดินทางเข้าสหรัฐต้องได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ครบโดส ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการยกเลิกข้อจำกัดด้านการเดินทาง หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ทำเนียบขาวได้สั่งห้ามไม่ให้ชาวต่างชาติส่วนใหญ่เดินทางเข้าสหรัฐ
“คณะบริหารของปธน.ไบเดนมีการทำงานร่วมกันเป็นทีม เพื่อสร้างระบบใหม่ที่มีความพร้อมเมื่อเราสามารถกลับมาเปิดการเดินทางได้อีกครั้ง ซึ่งรวมถึงการกำหนดให้ชาวต่างชาติทุกคนที่ต้องการเดินทางเข้าสหรัฐจะต้องได้รับการฉีดวัคซีนครบโดส” เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวกล่าว ซึ่งถือเป็นการส่งสัญญาณชัดเจนที่สุดว่า สหรัฐกำลังเดินหน้าลดข้อจำกัดในการเดินทาง”
ทั้งนี้ สหรัฐเริ่มใช้มาตรการจำกัดการเดินทางครั้งแรกกับนักท่องเที่ยวชาวจีนเมื่อเดือนม.ค. 2563 เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 หลังจากนั้นสหรัฐได้เพิ่มรายชื่อประเทศที่ถูกจำกัดการเดินทางเข้าสหรัฐเรื่อยมา จนกระทั่งล่าสุดในเดือนพ.ค. สหรัฐได้ประกาศห้ามผู้ที่เดินทางจากอินเดียเข้าประเทศ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 ส.ค. 64)
Tags: COVID-19, lifestyle, ฉีดวัคซีนโควิด, ทำเนียบขาว, เปิดประเทศ, โควิด-19