สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นในวันจันทร์ (18 พ.ย.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางสัญญาณที่บ่งชี้ว่าสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนมีแนวโน้มทวีความรุนแรงมากขึ้น
- สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 44.50 ดอลลาร์ หรือ 1.73% ปิดที่ 2,614.60 ดอลลาร์/ออนซ์
- สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 79.20 เซนต์ หรือ 2.60% ปิดที่ 31.224 ดอลลาร์/ออนซ์
- สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 29.40 ดอลลาร์ หรือ 3.11% ปิดที่ 974.50 ดอลลาร์/ออนซ์
- สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 64.90 ดอลลาร์ หรือ 6.88% ปิดที่ 1,008.20 ดอลลาร์/ออนซ์
ดาเนียล พาวิโลนิส นักกลยุทธ์การตลาดจากบริษัท RJO Futures นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากรัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ ได้อนุมัติให้ยูเครนสามารถใช้ขีปนาวุธ Army Tactical Missile Systems หรือ ATACMS ของสหรัฐฯ โจมตีลึกเข้าไปในดินแดนของรัสเซีย
ทางด้านโดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์ บุตรชายของโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ออกมาตำหนิว่าการกระทำดังกล่าวของรัฐบาลไบเดนถือเป็นการบ่อนทำลายการทำหน้าที่ของว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ด้วยการเร่งให้เกิดความรุนแรงมากขึ้นในการทำสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน
ขณะที่รัสเซียเตือนว่า การกระทำดังกล่าวของรัฐบาลไบเดนจะเป็นการบ่งชี้ว่าสหรัฐฯ ได้เข้าเกี่ยวข้องโดยตรงในการทำสงครามกับรัสเซีย ซึ่งอาจลุกลามกลายเป็นสงครามโลกครั้งที่ 3
นอกจากนี้ การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังช่วยให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาที่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น ๆ โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ปรับตัวลง 0.38% แตะที่ระดับ 106.276
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 พ.ย. 67)
Tags: COMEX, ทองคำนิวยอร์ก, ราคาทอง, ราคาทองคำ